ตำรวจ เตือนรถติดไฟแดงก็ห้ามใช้โทรมือถือ

เอไอเอส แจกแฮนด์ฟรี 20,000 ชิ้นให้ผู้ขับขี่ เผย เตือนถึง 19 พ.ค.ก่อนจับจริง ย้ำรถติดไฟแดงไม่สามารถโทรฯได้ ตำรวจขอนแก่น แจกแผ่นพับใบปลิว รณรงค์ โทรแล้วขับถูกจับแน่ ขณะที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เร่งติดวง จรปิด เอาผิดคนละเมิดกฏหมาย

(8พค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณด่านทับช้าง มอเตอร์เวย์ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจทางหลวง

นำโดยพล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล.ร่วมกับบริเวณแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือเอไอเอส ได้นำอุปกรณ์เสริมในการโทรศัพท์ขณะขับรถหรือแฮนด์ฟรี มาแจกจ่ายให้ผู้ขับขี่บนท้องท้องถนน โดยพล.ต.ต.พศิน กล่าวว่า วันนี้(8 พ.ค.) เป็นวันแรกที่พ.ร.บ.การจารจรบังคับใช้เรื่องไม่คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท วันนี้บริษัทเอไอเอสได้นำอุปกรณ์เสริมในการใช้โทรศัพท์หรือแฮนด์ฟรี 20,000 ชุดมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ใช้รถ โดยได้กระจายแจกจ่ายตามเส้นทางทางหลวงทั่วประเทศ จะเริ่มแจกจ่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าของจะหมด
 

"ทั้งนี้ในโครงการโทรไม่ขับเราจะทำการตักเตือนผู้ฝ่าฝืนไปถึงวันที่ 19 พ.ค.จากนั้นจะดำเนินการจับกุมผู้ฝ่าฝืน โดยเส้นทางหลวงและทางด่วนต่างๆ จะมีกล้องจับความเร็วหรือสปี๊ดเรเซอร์คาเมร่า ที่สามารถตรวจจับทั้งความเร็วและสามารถจับอากัปกริยาผู้ที่ขับขี่รถได้ว่าใช้มือถือขณะขับรถหรือไม่ ซึ่งในการถ่ายภาพดังกล่าวจะเห็นทะเบียนรถและคนขับ โดยในภาพยังบอกวันและเวลาและหลักกิโลเมตรที่ทำผิดอีกด้วย จากนั้นจะส่งรูปดังกล่าวพร้อมใบสั่งไปยังเจ้าของรถถึงบ้าน ให้มาชำระค่าปรับภายใน 15 วัน หากไม่มาตามกำหนดก็จะประสานไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อระงับการต่อทะเบียน " พล.ต.ต.พศินกล่าว


พล.ต.ต.พศิน กล่าวอีกว่า เบื้องต้นวันนี้( 8 พ.ค.) ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี

และไม่พบรายงานว่ามีผู้ฝ่าฝืนแต่อย่างใด ในขณะที่ประชาชนบางส่วนยังไม่เข้าใจในบางเรื่อง เช่นสามารถโทรขณะติดสัญญาณไฟจารจรได้หรือไม่ ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ไปว่าไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ขณะขับรถบนทางสาธารณะแม้จะติดสัญญาณไฟจารจรอยู่ก็ตาม ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัทเอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นถึงความปลอดภัยจึงได้นำแฮนด์ฟรี 20,000 ชิ้นมาร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน โดยวันนี้(8 พ.ค.) เป็นวันแรกและจะแจกจ่ายไปกว่าของจะหมด
 

ด้านพล.ต.ต.ธนิศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าวว่า

วันนี้เป็นวันแรกที่เริมใช้กฏหมายคุมผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าเป็นผู้รักษากฎหมายจึงต้องปฏิบัติ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตั่งด่านตามที่ต่างๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และตักเตือนผู้ที่กระทำผิด นายเถลิงศักดิ์ สมบุญ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 4 ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ปกติตนใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำโดยเฉพาะขณะขับรถ แต่พอกฎหมายออกมาห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถนั้น ตนก็ว่าเป็นสิ่งที่ดีเพื่อลดอุบัติเหตุลงแต่ในส่วนตัวนั้นตนไม่มีความถนัดและไม่คุ้นเคยกับการใช้เครื่องช่วยฟังต่างๆ แต่ตนก็คงจะไม่ทำผิดกฎหมายซึ่งถ้าขณะขับรถอยู่มีโทรศัพท์เข้ามาก็จะต้องจอดรถและพูดคุยธุระให้เสร็จก่อนจึงจะขับรถต่อไป
 


ขณะเดียวกันร้ายขายโทรศัพท์ต่างๆในจังหวัดอ่างทองมีประชาชนต่างมาทำการซื้อเครื่องช่วยในการฟังจากโทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมาก

น.ส.ยุวดี สุวรรณฮี อายุ 27 ปี ผวจ.ร้านแอคัสเทราคอม กล่าวว่า หลังจากมีกฎหมายออกมาให้ผู้ที่ขับรถต้องใช้เครื่องช่วยฟังเพื่อความปลอดภัยนั้น ตั้งแม่เมื่อวานจนถึงวันนี้ได้มีประชาชนมาทำการซื้อเครื่องช่วยฟังชนิดต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักศึกษาและคนที่ทำงานแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลหลักเมือง ถ.ศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
 
พ.ต.ท.ชัยยะ หนูคุ้มทรัพย์ รองผกก.จราจร สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกับบ.แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) สาขาขอนแก่น และนักเรียน นักศึกษา ร่วมรณรงค์ห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ ตามที่พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่8) พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ วันที่ 8 พฤษภาคม ผู้ขับขี่ยานพาหนะไม่สามารถพูดโทรศัพท์มือถือได้ หากกระทำจะมีโทษปรับ 400-1,000 บาท ซึ่งกฎหมายห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถใช้โทรศัพท์ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนาโดยผู้ขับขี่ต้องไม่ถือโทรศัพท์เคลื่อนที่
 

ในการตั้งจุดตรวจเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายรณรงค์ห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ,โทรขับไม่ถูกจับต้องใช้อุปกรณ์เสริม และ โทรขับถูกปรับแน่ เริ่ม 8 พ.ค. 2551

ทั้งนี้ได้มีการแจกเพื่อให้ประชาชนทำความเข้าใจกับกฎหมาย มาตรา 43 (9) พ.ร.บ.จราจรทางบก และผู้ฝ่าฝืนต้องถูกจับปรับ 400-1,000 บาท พ.ต.ท.ชัยยะ กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 15 วันหลังจากประกาศใช้กฎหมายก็จะว่ากล่าวตักเตือน จากนั้นจะจับกุมทันที ซึ่งการแจกแผ่นพับ ใบปลิว ก็เพื่อต้องการให้ประชาชนตื่นตัวกับการบังคับใช้กฎหมายหมายใหม่ และหลังจากการประชาสัมพันธ์แล้วก็จะเริ่มจับปรับตามกฎหมายทันที ซึ่งผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะหากต้องการที่จะใช้โทรศัพท์ต้องจอดรถข้างทาง และใช้อุปกรณ์เสริมเท่านั้น
 

ด้านพล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า

หลังจากมีกฏหมายห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ ตำรวจได้เตรียมการรับมือแล้ว โดยในพื้นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทางเจ้าหน้าที่จะใช้กล้องวงจรปิดตรวจจับการกระทำความผิดผู้ใช้รถโทรศัพท์มือถือขณะขับรถอย่างเข้มงวด ส่วนสภ.ต่าง ๆ ทั้ง 23 แห่ง มีหนังสือสั่งการให้ตรวจเข้มทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยจะเน้นการตรวจและตักเตือนไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค.51 และหลังจากนั้นเป็นต้นไปจะใช้มาตรการปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท นอกจากนี้ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าได้ฉวยโอกาสในช่วงนี้แสวงหาผลประโยชน์เด็ดขาดที่หากพบหรือมีการร้องเรียนจะดำเนินการวินัยขั้นเด็ดขาดทันที

นอกจากนี้จากการติดตามบรรยากาศตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์มือถือทั้งเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะสมอลทอค พบทุกร้านมีความคึกคักมาก และจากการสำรวจพบว่าอุปกรณ์มือถือหลายยี่ห้อเริ่มขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์