ตะลึง รอยพระพุทธบาททับทิมสยามแห่งอ่าวไทย มหัศจรรย์ 2,600 ปี

ตะลึง รอยพระพุทธบาททับทิมสยามแห่งอ่าวไทย มหัศจรรย์ 2,600 ปี

นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหนือคำบรรยายที่บังเกิดขึ้นในดินแดนสุวรรณภูมิ “รอยพระพุทธบาท”

ที่ถูกบันทึกไว้ให้ชาวโลกได้รับรู้ มีเพียง 5 แห่ง และมีชาวพุทธนิยมไปสักการะ ก็คือ เขาสุวรรณมาลิกา อินเดีย เขาสุวรรณบรรพต อินเดีย เมืองโยนะกะบุรี อินเดีย แม่น้ำนัมมะทา อินเดีย และที่ดินแดนสยามสุวรรณภูมิ ก็คือ สุมนกูด หรือเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี แต่ก็ยังมีความเชื่ออยู่ว่ารอยพระพุทธบาทยังมีอีกมากมายในดินแดนสยามสุวรรณภูมิ หรือแผ่นดินสยามแห่งนี้ ที่ยังมีการค้นพบอีกหลายแห่งในภาคต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการค้นพบที่น่าทึ่งก็คือ ได้มาจากนิมิตแห่งความลี้ลับ ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพื่อนำไปพบรอยพระพุทธบาท ทั้งบนยอดเขาสูง และพื้นราบซึ่งล่าสุด ครูบาสันยาสี ได้มีนิมิตเห็นรอยพระพุทธบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในมหาสมุทรอ่าวไทย ที่ริมชายหาดกล้วย เกาะกูด จ.ตราด หรือแหลมหินลับมีด ดินแดนติดต่อทางทะเลกับประเทศกัมพูชา และได้ตั้งชื่อว่า “รอยพระพุทธบาททับทิมสยาม”

ครูบาสันยาสี ภิกขุ แห่งสำนักปฏิบัติธรรมพระพุทธบาทจันทาราม (เขาถ้ำพระ)ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

ซึ่งมีความเลื่อมใสและศรัทธาในพุทธศาสนา มีความปรารถนาหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารทั้งมวล เพื่อสู่พระนิพพาน ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรม ณ ยอดเขาพญาเดินธง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ขณะที่นั่งกรรมฐานในวันวิสาขบูชา 2,600 ปี พุทธยันตี ได้เกิดนิมิตเห็นรอยพระพุทธบาทริมหาด ในมหาสมุทรอ่าวไทย เกาะกูด จ.ตราด และได้มีดวงวิญญาณของโอปปาติกะ ผู้ดูแลรักษาสถานที่ และบอกว่าเป็นดวงวิญญาณของเจ้าหญิงสุมลมาลย์ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นผู้ดูแลรักษาสถานที่เกาะกูด เกาะกระดาษ และดูแลรักษารอยพระพุทธบาทแห่งนี้มายาวนาน ปรารถนามาอาราธนานิมนต์พระคุณเจ้าทางนิมิต บอกว่ารอยพระพุทธบาทตั้งอยู่บนอ่าวกล้วย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เกาะกูด สถานที่ตั้งรอยพระพุทธบาทเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ ลักษณะก้อนหินยื่นลงไปในทะเล เป็นรอยพระพุทธบาท 2 รอยคู่กัน ประทับรอยกลับไปกลับมา (หรือขึ้นลง) เป็นรอยเท้าขนาดใหญ่ เท่ากับรอยเท้าคนแปดศอก มีส้นเท้าและปลายนิ้วอย่างชัดเจนตลอดจนก้นหอย นอกจากนี้ยังมีรอยเท้าเท่ากับคนธรรมดาอยู่บนโขดหินอีกเป็นจำนวนมาก

นิมิตดังกล่าวนี้สอดคล้องกับการเล่าขานกันมายาวนานนับร้อย ๆ ปี ของชาวเกาะกูดและพื้นที่ใกล้เคียงว่า

บนเกาะแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ริมชายเกาะ เมื่อน้ำทะเลลดลงจึงจะมองเห็นแม้ว่าจะมีบุคคลจำนวนมากพยายามค้นหารอยพระพุทธบาท แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดพบเห็นมาก่อน และเชื่อกันว่าก่อนกึ่งพุทธกาลเกาะกูดเป็นดินแดนสร้างอาณาจักรมหานิกาย ฮินดู เผยแผ่ศาสนา พระพุทธองค์เสด็จมาอาณาจักรสุวรรณภูมิเพื่อเทศนาโปรดสัตว์ จึงเกิดรอยพระพุทธบาทบนโขดหินริมชายหาด แต่ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน เมื่อมีนิมิตดีเช่นนี้ ครูบาสันยาสี หรือมหาโยคี จึงได้ลงจากยอดเขาพญาเดินธง จ.ลพบุรี พร้อมศิษยานุศิษย์จำนวนหนึ่งเดินทางมายังท่าเรือจังหวัดตราด เช่าเหมาเรือเร็วขนาดใหญ่ฝ่าคลื่นลมไปค้นหาเป็นระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ถึงแม้จะเป็นหน้าฤดูมรสุม มีฝนตก มีคลื่นลมแรง แต่ก็ได้มีปาฏิหาริย์ให้เห็น เมื่อเริ่มออกเดินทางท้องฟ้าแจ่มใส คลื่นลมสงบเงียบ ทำให้การเดินทางไม่พบอุปสรรคใด ๆ ทั้งไปและกลับ

เป็นที่น่าแปลกใจของคณะที่เดินทางร่วมไปด้วย เพราะแม้แต่ครูบาสันยาสีก็ไม่เคยเดินทางไปยังอ่าวต่าง ๆ ของเกาะกูด
 
แต่สามารถบอกทิศทางนำพาคนขับเรือเร็วซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ไปยังอ่าวกล้วยได้อย่างถูกต้องตามจุดที่ได้เกิดนิมิตเห็นรอยพระพุทธบาท และยังได้สร้างความประหลาดใจให้กับลูกจ้างทำสวนยางพาราจำนวนหลายคนที่ปลูกบ้านพักอยู่ริมชายหาดใกล้ ๆ กับรอยพระพุทธบาท ต่างพูดกันว่า นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆ เพราะสถานที่แห่งนี้ได้เดินผ่านไปผ่านมาทุกวัน แต่ไม่มีใครเคยเห็นรอยพระพุทธบาทแห่งนี้เลย ทำให้เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก เช่นเดียวกับ นางมณีจันทร์ ศรีทองคำ ได้มาทำธุรกิจที่พักอาศัย และมีที่ดินอยู่บนเกาะกูด เคยได้ยินผู้เฒ่าพูดและเล่ากันมาหลายยุคหลายสมัยว่า ดินแดนเกาะกูดเป็นดินแดนแห่งธรรมที่รุ่งเรืองมาก่อน และมีการพูดกันว่าบนเกาะแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทอยู่แต่ไม่เคยมีใครค้นพบ จนมาทราบข่าวว่า ครูบาสันยาสี พร้อมคณะศิษย์ปได้เดินทางมาสำรวจจึงได้ขอติดตามคณะไปด้วย รู้สึกตกใจ และตะลึงอย่างมากที่พบรอยพระพุทธบาทตามคำเล่าลือมานานแสนนาน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าพระท่านรู้ได้อย่างไรและเดินทางไปถูก ทั้งที่บริเวณใกล้เคียงรอยพระพุทธบาทได้มีบ้านพักคนงานลูกจ้างทำสวนยาง ปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ริมชายหาดแห่งนี้มานานหลายปี เดินผ่านไปผ่านมาทุกวันแต่ไม่มีใครพบเห็นมาก่อนเลย

เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก ครูบาสันยาสี พร้อมคณะศิษย์ได้พาผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และทีวี เดลินิวส์

ร่วมเดินทางไปบันทึกภาพเพื่อเป็นสักขีพยาน ตรงจุดด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ตรงข้ามกับเกาะกง กัมพูชา และได้พากันลงน้ำทะเลขึ้นไปยังชายฝั่ง พบรอยพระพุทธบาทชัดเจนอยู่บนแผ่นหินริมชายหาด จึงได้นำบายศรี ดอกไม้ ธูปเทียนไปสักการะเพื่อขออนุญาตในการตรวจสอบ และบันทึกภาพมาเผยแพร่ให้สาธุชนชาวพุทธได้รับทราบว่า พบรอยพระพุทธบาท ซึ่งค้นพบในปีพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ ซึ่งเป็นปีมหามงคลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในดินแดนสุวรรณภูมิของไทย กลางอ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งมีความชัดเจน สวยงาม เป็นธรรมชาติ และจะมองเห็นได้ชัดในช่วงน้ำทะเลลง พร้อมตั้งชื่อว่า “รอยพระพุทธบาททับทิมสยาม”.

พัชรพล ปานรักษ์ / ชิงชัย เชิดกลิ่น


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์