ตรุษจีน 26 ม.ค. วัน จันทร์ดับ

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ แห่งชาติ (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า

องค์การยูเนสโก และสหพันธ์ ดาราศาสตร์สากล ได้กำหนดให้ปี
2552 เป็นปี ดาราศาสตร์สากล เนื่องจากครบรอบ 400 ปีของการศึกษาวิจัยด้านดาราศาสตร์ ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยจะมีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการประกาศ


สถานที่สำคัญทางดาราศาสตร์ของประเทศ อาทิ แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต ปราสาทเขาพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ บริเวณลองจิจูดเส้นแวงที่ 105 จ.อุบลราชธานี และหอดูดาวสิรินธร จ.เชียงใหม่ เป็นต้น โดยสถาบันฯ เตรียมประกาศ 3 จุดสำคัญก่อนเพื่อนำร่อง คือ 1. แหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์ตก 2. ปราสาทเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์ผ่าน 15 ช่องประตูทุกวันที่ 3 เม.ย.ของทุกปี ถือเป็นจุดที่มีความสำคัญทางดาราศาสตร์ และ 3. บริเวณลองจิจูดเส้นแวงที่ 105 ซึ่งเป็นจุดแรกและจุดเดียวที่เกิดขึ้นในแถบเอเชีย โดยเป็นจุดที่กำหนดมาตรฐานเวลาของประเทศไทย

นายบุญรักษากล่าวต่อว่า
 
นอกจากนี้ ในวันที่
20 ม.ค.นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์สารสนเทศและศูนย์ฝึกอบรมดาราศาสตร์ ที่กิโลเมตร 31 บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์ดาราศาสตร์แห่งแรกในเอเชีย จากนั้นจะทรงเยี่ยมชมหอดูดาวแห่งชาติ บนยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2552 พร้อมทั้งจะมีการติดตั้งกล้องดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเช่นกัน ซึ่งจะติดตั้งและพร้อมใช้งานในเดือน เม.ย.2553 อย่างไรก็ตาม ในปีดาราศาสตร์สากล ยังมีปรากฏการณ์อุปราคาที่น่าสนใจ โดยช่วงตรุษจีนปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 26 ม.ค. จะเกิดปรากฏการณ์ สุริยุปราคาวงแหวนโดยดวงจันทร์เข้าบังดวงอาทิตย์เพียงบางส่วน แต่ที่พิเศษคือ ขณะเดียวกันก็เกิดปรากฏการณ์ จันทร์ดับในคราวเดียวกัน เนื่องจากเป็นช่วงขึ้น 1 คํ่า ที่ไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้

ปรากฏการณ์ดังกล่าว ประเทศไทยจะมองเห็นได้ บางส่วนเพียงร้อยละ 45 มองเห็นได้ตั้งแต่เวลา 16.15 น. ขึ้นไป จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า สำหรับปรากฏการณ์ จันทร์ดับร่วมกับสุริยุปราคาครั้งนี้ ไม่อยากให้คนเข้าใจกันว่าเป็นเรื่องของลางไม่ดี เพราะตามหลักดาราศาสตร์ เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติเท่านั้นนายบุญรักษากล่าว

ด้านนายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า

สมาคมฯ จะทำพิธีสวดนพเคราะห์ สวดจันทรุปราคาและสวดสุริยุปราคาในวันที่
26 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่เกิดอุปราคาหรือจันทร์ดับ แม้ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดเป็นระยะอยู่แล้ว แต่ปีนี้แตกต่างจากทุกปี เนื่องจากการเกิดอุปราคาดังกล่าวกระทบต่อดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวที่ให้คุณโดยตรง ที่สำคัญ เกิดในฤกษ์ที่เรียกว่า ภูมิปาโลฤกษ์ ซึ่งเป็นฤกษ์แห่งการรักษาแผ่นดิน

ดังนั้น เหตุการณ์บ้านเมืองจะไม่ปกติ และจะมีการเปลี่ยน แปลงตลอดเวลา เกิดความไม่สงบจนถึงเดือน พ.ย.
2552 อีกทั้งการเกิดอุปราคาที่กระทบต่อดาวพฤหัสฯยังส่งผลให้อาจเกิดความสูญเสีย สมาคมฯจึงจัดพิธีสวดนพเคราะห์ขึ้น เพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาให้แก่ดาวพฤหัสบดีให้เข้มแข็งขึ้น โดยเลือกสถานที่ที่วัดเทวราชกุญชร ซึ่งมีพื้นที่ถูกโฉลก เพราะตั้งอยู่บริเวณเทเวศร์ ที่หมายถึง เทวดา ขณะที่ตัวเจ้าอาวาส คือ พระเทพคุณาภรณ์ ก็เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ จึงหมายถึงทั้งเทพและเทวดามาชุมนุมกัน นอกจากนี้ พระที่มาสวดนพเคราะห์ก็เป็นพระสงฆ์เปรียญธรรม 9 ประโยค 9 รูป ทั้งนี้การสวดดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น.

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์