ตร.สรุปผลสอบปมจ่าเพียร จี้ผบช.ภ.9 ตอบคำถาม

"ปทีป"ตั้ง กก.สอบ"ผบช.น."ซื้อขายเก้าอี้ กก.ในกมธ.ตำรวจสรุปผลสอบปม"สมเพียร" ชี้ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ เหตุโยกย้ายไม่มีธรรมาภิบาล ไม่แต่งตั้งทั้งที่ตำแหน่งว่าง กลับเอาคนใกล้ชิดมานั่งแทน จี้ ผบช.ภ.9 ตอบคำถามให้ชัด


พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)

ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ปฏิเสธข่าวการโยกย้าย พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) หลังมีกระแสข่าวว่า บกพร่องกรณีไม่รับ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง ตามที่มีการร้องขอ จนเป็นเหตุให้ พล.ต.อ.สมเพียรถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเสียชีวิต ว่ายังไม่มีเรื่องนี้ และยังไม่ได้รับรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการชุดที่มี พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ส่วนการลงโทษหากผลการสอบสวนพบความบกพร่องก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีโทษอย่างไร ต้องรอผลการสอบสวนก่อน ทั้งนี้ มีรายงานว่า คณะกรรมการชุดที่มี พล.ต.ท.เอก เป็นประธาน จะประชุมเวลา 19.00 น. วันที่ 1 เมษายน เพื่อสรุปผลการสอบสวนเสนอ พล.ต.อ.ปทีป


รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.

ลงนามในคำสั่งที่ 163/2553 ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในคำสั่งระบุว่า มีผู้ใช้นามว่า "รอง ผกก.ที่ตั้งใจทำงานแต่ไม่มีเส้นและไม่มีเงิน ร้องเรียนกล่าวหาว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เรียกรับเงินหรือทรัพย์สินเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)-สารวัตร (สว.) ใน บช.น. วาระประจำปี 2552
จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 มาตรา 84 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา จเรตำรวจ (สบ 8) เป็นประธานกรรมการ พร้อมกรรมการ 6 คน ให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จแล้วรายงานให้ พล.ต.อ.ปทีปทราบโดยเร็ว


จากกรณีข่าวการโยกย้าย พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) หลังมีกระแสข่าวว่า บกพร่องกรณีไม่รับ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง ตามที่มีการร้องขอ จนเป็นเหตุให้ พล.ต.อ.สมเพียรถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเสียชีวิต


นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร

แถลงเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่รัฐสภาว่า จากการตรวจสอบการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจใน บช.ภ.9 โดยเฉพาะกรณี พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา พบว่า ไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายภายใน บช.ภ.9 โดยเฉพาะการไม่มีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ


นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่า สภ.บันนังสตา เป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่ขึ้นอยู่กับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) หรือที่เรียกว่า บช.ภ.10

ซึ่ง ศชต.มีหนังสือลงวันที่ 30 ธันวาคม 2552 ถึง ผบช.ภ. 9 ขอให้พิจารณาสนับสนุนแต่งตั้งข้าราชการตำรวจจาก ศชต. ซึ่งยื่นความประสงค์ขอรับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งใน บช.ภ.9 จำนวน 4 นาย คือ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ รมยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.อ.สมเพียร พ.ต.อ.จิรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และ พ.ต.อ.สามารถ วิชัยขัคคะ ผกก.บก.สส.ศชต.


"ผบช.ภ.9 ได้ทำหนังสือสอบถามภายในหน่วยงานว่า จะมีผู้ประสงค์ที่จะย้ายออกจาก บช.ภ.9 หรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีใครประสงค์ที่จะสับเปลี่ยนไปอยู่ ศชต. และในการประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งใน บช.ภ.9 หลายครั้ง ก็ได้รับการชี้แจงว่าไม่มีตำแหน่งที่จะรองรับ พล.ต.อ.สมเพียร แต่จากข้อเท็จจริงที่สอบสวนปรากฏว่า มีการย้าย พ.ต.ท.ทรงภูมิ แจ้งเร็ว ผกก.สภ.สทิงพระ จ.สงขลา ไปดำรงตำแหน่งระดับ ผกก.ในบช.ภ.8 จึงมีอัตราว่าง 1 ตำแหน่ง แต่กลับแต่งตั้งพ.ต.อ.จิรวัฒน์มาดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยไม่รับ พล.ต.อ.สมเพียร มาดำรงตำแหน่งใน บช.ภ.9Ž" นายนิพิฏฐ์


นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ยังมีข้อเท็จจริงว่า ในเอกสารเวียนของการพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาตำแหน่ง บช.ภ.9

มีรายชื่อ พล.ต.อ.สมเพียรอยู่ในรายชื่อที่ได้รับแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองตรัง ฉะนั้น ข้อชี้แจงของ บช.ภ.9 ที่ระบุว่า ไม่มีตำแหน่งว่างจึงไม่เป็นความจริง และจากการตรวจสอบพบว่า พ.ต.อ.จิรวัฒน์ยังเหลืออายุราชการ 10 ปีเศษ และเพิ่งดำรงตำแหน่ง ผกก.ศรีสาคร ได้เพียง 2 ปี ขณะที่ พล.ต.อ.สมเพียรกำลังจะเกษียณอายุราชการในปี 2554 ซึ่งควรจะให้โอกาสได้รับการพิจารณาโยกย้ายก่อน


"ผบช.ภ.9 ต้องตอบคำถามว่า ทำไมจึงไม่เลือก พล.ต.อ.สมเพียร หรือเป็นไปตามข่าวที่พูดกันว่า พ.ต.อ.จิรวัฒน์มีความใกล้ชิดส่วนตัว เนื่องจากเคยเป็นนายเวร ผบช.ภ.9 มาก่อน ดังนั้น การแต่งตั้งโยกย้ายคราวนี้จึงไม่มีลักษณะของธรรมาภิบาลที่ดี ถ้า พล.ต.อ.สมเพียรไม่เสียชีวิต เรื่องก็คงเงียบไป และขณะนี้ในพื้นจังหวัดชายแดนภาคใต้มีนายตำรวจระดับ ผกก.หลายนายตกเป็นเป้าในการถูกทำร้าย และก็มีรายชื่ออยู่แล้ว ทุกกองบัญชาการจึงควรเปิดให้โอกาสให้คนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ ซึ่งจะทำเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และนายกรัฐมนตรี เสนอว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งต่อไปควรมีการเปิดตำแหน่งในระดับรอง ผกก. และ ผกก.ให้ว่างไว้ทุกกองบัญชาการ ไม่เช่นนั้นตำรวจจากสุไหงโก-ลก ก็จะย้ายมานครบาลไม่ได้" นายนิพิฏฐ์กล่าว


ด้านนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง ในฐานะรองประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวมีชื่อนักการเมืองชื่อย่อ ส. และ ศ. เข้ามาเกี่ยวข้องในการแต่งตั้งโยกย้าย จึงขอชี้แจงว่า จ.ตรัง มี ส.ส. ที่ชื่อ ส. ถึง 4 คน แต่ยืนยันว่าไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนผู้มารับตำแหน่ง ผกก.สภ.กันตรัง คือ พ.ต.อ.วิชัย อินทวงศ์ ผกก.สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ แต่มีกระแสข่าวว่ามีความใกล้ชิดกับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากภรรยาไปเป็นแม่บ้านทำกับข้าวให้ผู้บังคับบัญชาที่บ้าน


ขณะที่ พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ รองประธาน กมธ.การยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา พร้อม พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ โฆษก กมธ.การยุติธรรมฯ และคณะ เข้ารับฟังปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจไม่เป็นธรรม ที่ห้องประชุม ศชต. จ.ยะลา โดยมี พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผบช.ศชต.พร้อมคณะให้การต้อนรับและบรรยายสรุป


พล.ต.ท.มาโนชกล่าวว่า การเดินทางพื้นที่ในครั้งนี้ เพราะได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมข้าราชการตำรวจบำนาญ เรื่องความไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายแต่งข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะกรณีของ พล.ต.อ.สมเพียร กมธ.จึงมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าติดขัดตรงไหนถึงไม่ได้ย้าย


ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมพล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์

เข้าเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บันนังสตา โดยมี พ.ต.ท.เจตน์ เจริญยืน รักษาราชการ ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมคณะให้การต้อนรับ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 15 ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกควบคุมตัวนายซาการือนอ กาซอ อายุ 21 ปี และนายมูฮำหมัด เซ็งและ อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา ไปสอบสวนที่กรมทหารพรานที่ 41 เนื่องจากต้องสงสัยว่า เป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ในการผลิตวัตถุระเบิดสังหาร พล.ต.อ.สมเพียร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในคดีสังหาร พล.ต.อ.สมเพียร รวมแล้ว 10 ราย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์