ตร.ควนกาหลง จับแม่ค้ารุ่นยายของกลางแกง 2 ถุง (ชมคลิป)

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนกาหลง ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สต.1 (ทุ่งนุ้ย) ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล และหน่วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาเข้าตรวจค้น “ร้านข้าวแกงป้าชีพ” ตั้งอยู่บริเวณหน้า สภ.ควนกาหลง หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำสัตว์ป่ามาประกอบอาหาร จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นซากสัตว์ป่าหวงห้าม 2 รายการ ประกอบด้วย 1.ซากตะกวด (แกงแลน) น้ำหนัก 220 กรัม 2.ซากกระรอก (แกงกระรอก) น้ำหนัก 240 กรัม จึงคุมตัวนางชีพ หรือป้าชีพ บัวทอง อายุ 73 ปี เจ้าของร้านดำเนินคดีในข้อหา “มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง”

พ.ต.อ.ธิติ กิจรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.ควนกาหลง เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามนโยบายของ คสช. อย่างจริงจัง ที่ให้เร่งดำเนินการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งมีมาตรการป้องกันและปราบปราม รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เร่งรัดจับกุมการทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และรณรงค์ให้ชาวบ้านเกิดความรักห่วงแหนผืนป่าและทรัพยากรป่าไม้

ด้านนางชีพ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ว่า ทางร้านเปิดขายข้าวแกงมากว่า 50 ปีแล้ว โดยลูกค้ามีทั้งชาวบ้านทั่วไปและมีข้าราชการ สำหรับอาหารที่ขายส่วนใหญ่เป็นประเภทแกง เช่น แกงไก่บ้าน แกงปลา และอาหารทั่วไป วันนี้ตนได้รับแกงแลนและแกงกระรอกมาจากพ่อค้าอาหารป่า ซึ่งเป็นชาว จ.ยะลา ทำเป็นแพ๊คถุงนำมาส่งให้ที่ร้านขาย

"ขอยืนยันว่า คนในพื้นที่ไม่เคยมีใครนำอาหารสัตว์ป่ามาขายให้เลย เนื่องจากกลัวกัน ก่อนเกิดเหตุมีตำรวจทำทีมาซื้อแกงแลนและแกงกระรอก ตอนแรกจะซื้อไปทั้งหม้อ แต่ตนขายเป็นถุง จึงซื้อไปได้เพียงอย่างละถุง หลังจากนั้นก็มาจับกุมตน และต้องประกันตัวออกมาชั่วคราวด้วยวงเงินถึง 1 แสนบาท ทั้งที่ตนก็แก่แล้ว ขายข้าวแกงเพื่อเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ และยังต้องเลี้ยงหลานอีก 3 คน ซึ่งกำลังเรียนหนังสือทุกคน ไม่น่าทำกันขนาดนี้เลย ตนก็ได้แต่ทำใจคิดว่าเป็นคราวซวยในชีวิต"

ภายหลังชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบข่าวต่างโจษขานถึงเรื่องความยุติธรรมในการทำหน้าที่ของตำรวจ สภ.ควนกาหลง หลังเข้าจับกุม "ร้านข้าวแกงป้าชีพ" ซึ่งได้มีการโพสต์ภาพข่าวการจับกุมนางชีพ บัวทอง ขึ้นโชว์ในหน้าเฟชบุ๊กทำให้มีคอมเม้นท์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ พร้อมแชร์คลิปออกไปเป็นจำนวนมาก