ดารารุ่นเก๋าจุฬาตรีคูณตกอับนอนศาลาสวดศพ

คม-ชัด-ลึก

16 เมษายน 2550 23:13 น.

อุทาหรณ์ดารานักแสดง "ภักดิ์ เพชรเกษม" ฉายายักษ์โล้น นักเล่นกล้าม แสดงหนังนับสิบเรื่อง รวมทั้ง "จุฬาตรีคูณ" ซึ่งมี สมบัติ เมทะนี เป็นพระเอก โด่งดังไปทั่วโลก แต่ฟ้าลิขิตให้ชีวิตพลิกผัน เปลี่ยนวิถีไร้ที่พักพิง ไปอาศัยมุมศาลาสวดศพร้างสวดมนต์ภาวนา ปล่อยหนวดเคราเหมือนฤาษี ชีวิตประจำวันช่วยทำความสะอาดวัด ล้างจานในงานศพ แลกข้าวกินไปวันๆ

เผยเหตุชีวิตพลิกผัน เพราะไปสมัครเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยให้ทหารมะกันที่อู่ตะเภา สุดท้ายทหารมะกันถูกนักศึกษาไล่ออกนอกประเทศไป จึงตกงานเรื่อยมา ฝากบอกดารารุ่นน้อง น้ำขึ้นต้องรีบตัก เจียมตัว อย่าทะนงตัวหลงต่อลาภสรรเสริญ จงรักษาศีล

เรื่องราวของดารารุ่นเก๋าตกอับรายนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน

นายสุขกิจ ถาวรตระการ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/14 หมู่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ดารานักแสดงค่าย ฉลอง ภักดีวิจิตร ได้แจ้งมายังผู้สื่อข่าวประจำอำเภอสัตหีบว่า ขณะที่ได้จัดงานสวดพระอภิธรรมศพพี่ชายที่วัดราษฎร์สามัคคี หรือวัดกิโลเมตรที่ 10 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ได้พบชายคนหนึ่งไว้หนวดไว้เครา รูปร่างสูงมาคอยช่วยดูแลความเรียบร้อยสถานที่ล้างจานเป็นประจำทุกคืน

นายสุขกิจ กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นหน้าชายคนดังกล่าวรู้สึกเหมือนคนคุ้นหน้า และเคยรู้จักมาก่อน แต่มีหนวดเคราเพิ่มขึ้นมา จึงได้สอบถามชื่อ และความเป็นมา จึงทราบว่า ชื่อนายภักดิ์ เพชรเกษม อายุ 76 ปี เกิดเมื่อ พ.ศ. 2484 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 131 ซอยริมคลองชักพระ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เคยแสดงหนังมาหลายเรื่องและที่โด่งดังไปทั่วโลกก็คือ เรื่อง จุฬาตรีคูณ ซึ่งนายภักดิ์ แสดงเป็นยักษ์โล้นคู่กับดารารุ่นเก่า สมบัติ เมทะนี และเป็นนักแสดงในยุค มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะที่กำลังเดินขึ้นไปบนศาลาร้าง ได้ยินเสียงสวดมนต์เชิงแหล่ในบท ชุมนุมเทวดา ดังมาจากศาลา และเมื่อเดินขึ้นไปจึงได้พบนายภักดิ์ หรือยักษ์โล้น นั่งพนมมือสวดมนต์อยู่มุมด้านทิศตะวันตกของศาลาไม้ชั้นเดียวสภาพเก่ารกร้าง ในอดีตศาลาหลังนี้เป็นศาลาสวดพระอภิธรรมศพ และเป็นศาลาสำหรับให้ญาติโยมมาทำบุญในวันเทศกาลสำคัญทางศาสนา ข้างตัวมีมุ้งสีขาวขนาดเล็กสภาพเก่า ถุงเสื้อผ้า ขวดน้ำ ถ้วย จานอาหารวางระเกะระกะอยู่ข้างมุ้ง

นายภักดิ์ เล่าให้ฟังถึงอดีตความเป็นมาทั้งหมดตั้งแต่เป็นเด็กชาวสวนช่วยพ่อ แม่เก็บมะพร้าว เก็บหมาก ขายอยู่ย่านฝั่งธนบุรี บวชเป็นพระภิกษุ 3 พรรษา ที่วัดดงมูลเหล็ก หรือวัดขี้เหล็ก จนวันหนึ่งได้รับการติดต่อให้ไปร่วมแสดงภาพยนตร์เป็นตัวประกอบฉายช่อง 4 บางขุนพรหม หลายเรื่องเช่น เปาปุ้นจิ้น 67 เพชฌฆาตเลือดเย็น ของฉลอง ภักดีวิจิตร ศึกมาฆ่า ละครจอแก้วคู่กับ ไกรเทพ เทวกรินทร์ ประกาศิตจางจูเหลียง ฟ้าเพียงดิน อินทรีแดง ตั๊กแตน ผึ้งหลวง ส่วนหนังที่ทำให้โด่งดังไปทั่วโลก ก็คือ จุฬาตรีคูณ ไปถ่ายทำที่ประเทศมาเลเซีย แสดงเป็นยักษ์โล้น ร่วมกับ สมบัติ เมทะนี และกาญจนา เมทะนี ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่พบกับจุดจบการเป็นดารานักแสดง เพราะได้มาสมัครเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยให้ทหารอเมริกันที่สนามบินอู่ตะเภา ก่อนที่กองทัพอเมริกันจะถูกขับไล่จากนักศึกษาให้ออกไปนอกประเทศไทย จนเป็นเหตุให้ตกงานเรื่อยมา

นายภักดิ์ กล่าวอีกว่า การเป็นดารานักแสดงได้เงินง่าย และมีเงินใช้จ่ายได้อย่างฟุ่มเฟือย

ทำให้เกิดความหลงต่อลาภ สรรเสริญ ไม่คำนึงถึงอนาคต ไม่ได้สนใจต่อสายตาของสังคมว่าจะคิดอย่างไร ไม่คิดเก็บออมเงินและทรัพย์ขณะที่กำลังรุ่งโรจน์ได้รับความนิยม มันเป็นสัจธรรมจริงๆ จนถึงวันนี้ต้องมาใช้ชีวิตแบบคนจรจัด ไม่มีใครรู้จัก เพราะรูปร่างเปลี่ยนแปลงไป จากการเป็นนักกล้าม ชายงาม อยู่ในยุทธจักรหมัดมวย และยังเป็นนักแสดงตัวประกอบชื่อดังระดับอินเตอร์ แต่ก็ยังต้องมาตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ ก็ขอให้ดารานักแสดงรุ่นใหม่ที่โด่งดัง จงรักษาอาชีพไว้ให้ยาวนาน อย่าหลงระเริง ลืมตัว เหมือนกับตัวเองที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมทุกวันนี้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พระครูอุดมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี ทราบว่าผู้ชายคนนี้เข้ามาอาศัยในอาณาเขตวัดได้ประมาณ 2 ปี ไม่เคยสร้างความหนักใจ เดือดร้อนให้แก่พระและญาติโยม ปฏิบัติตนเหมือนคนปกติธรรมดา ไม่เคยคุยโม้แสดงตัวว่าเป็นดาราหนังมาก่อน ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้วัดได้พอสมควร และต้องยอมรับว่าไม่เคยทราบมาก่อนว่าเคยเป็นดารานักแสดงรุ่นเก่า แต่ละวันก็เพียงให้แม่ครัวนำอาหารไปให้กิน หรือบางครั้งก็เดินลงมาเอาไปเอง เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่พบว่าลงมาที่กุฏิ ได้ให้แม่ครัวไปสอบถามปรากฏว่ามีอาการป่วย เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก คนในสังคมแท้ๆ แม้แต่วันสงกรานต์ปีใหม่ไทยยังไม่มีญาติมาอวยพรแม้แต่คนเดียว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์