ดาราดังเตือนเด็กไทยอย่าเลียนแบบท่า แบ๊ตแมนนิ่ง พลาดพลั้งถึงตาย!

วันที่ 12 ก.ย. รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม คณบดีคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ กล่าวถึงกระแสฮิตของวัยรุ่นในต่างประเทศ

โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่นิยมทำท่า "แบ๊ตแมนนิ่ง" ห้อยหัวลงพื้นเลียนแบบมนุษย์ค้างคาว เพราะเบื่อทำท่า "แพลงกิ้ง" หรือท่านอนตายซึ่งเคยฮิตเช่นเดียวกัน ว่า ท่าแบ๊ตแมนนิ่งดังกล่าวใกล้เคียงกับท่าออกกำลังกาย แต่ท่าออกกำลังกายจะไม่ทำลักษณะที่ทำให้เลือดตกหัวมากเท่านี้ คือ จะไม่มีท่าที่ศรีษะอยู่ด้านล่างในแนวตั้ง 90 องศา แต่จะเป็นการล็อคเท้ากับไม้กระดก มีอุปกรณ์กรสายรัดเพื่อความปลอดภัย การทำให้เลือดตกที่ศรีษะมากเกินไปจะทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะหัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยง และจะอันตรายยิ่งขึ้นหากมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ หลอดเลือด และหากขาไม่แข็งแรงก็จะรับน้ำหนักไม่ไหวอ่อนแรกและตกลงมาได้รับอันตราย

 “เลือดจะไหลเวียนตามแรงโน้มถ่วงของโลกด้วย การห้อยหัวลงคล้ายกรณีการยืนเป็นเวลานานก็ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ การเอาหัวลงก็ทำให้เลือดตกมาอยู่ที่หัว ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ทำก็ไม่ดีทั้งนั้น อาจทำให้เกิดอันตรายได้” รศ.ดร.วิชิต กล่าว

 นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าวว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการแสดงออกเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคม
 
โดยเฉพาะการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน จึงมักคิดว่าการกระทำที่แปลกออกไปจะทำให้เกิดการยอมรับได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบสังคม โรงเรียนของไทย ทำให้เด็กเป็น "โรคศักดิ์ศรีบกพร่อง" เมื่อเด็กไม่มีที่ยืนในสังคมก็แสดงออกด้วยการเรียกร้องความสนใจ เป็นเรื่องที่รัฐบาล ชุมชน โรงเรียน ต้องลงทุนในเรื่องการสร้างกิจกรรม สร้างพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออก ไม่ว่าจะเป็นลานกีฬาหรือลานกิจกรรม หากเด็กได้ออกแรง ได้ใช้พลังในทางสร้างสรรค์ ก็จะไม่สนใจในการแสดงออกในทางที่ไม่สร้างสรรค์

 นายอมรวิชช์ กล่าวว่า การถ่ายรูปอวดกัน และเว็บไซต์อย่าง Facebook ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่กระตุ้นทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ได้แต่หวังว่า เด็กไทยจะรู้เท่าทันกระแสต่างๆ เหล่านี้ เพราะกระแสใหม่ๆ ก็จะมาเรื่อยๆ หากทำตามก็ไม่ได้เกิดความภูมิใจถาวร ไม่เหมือนการเล่นกีฬา

ขณะเดียวกัน กลุ่มดาราดังที่เคยเล่นและโพสต์ภาพแพลงกิ้งต่างออกมาแสดงความเป็นห่วงเยาวชนไทยที่อาจลุกขึ้นมาทำท่าแบ๊ตแมนนิ่งจนเกิดอันตรายกับตนเอง

 โดยดาราสาว‘เมย์’พิชญ์นาฏ สาขากร ซึ่งเคยเล่นแพลงกิ้งช่วงฮือฮาก่อนหน้านี้ เผยว่า ตนยังไม่เห็นกรณีแบ็ตแมนนิ่ง แต่เท่าที่ได้ยินคำอธิบาย รู้สึกว่าเป็นการเล่นที่เกินขอบเขตไป เพราะขนาดแพลงกิ้งธรรมดาก็อันตรายอยู่แล้ว การเล่นอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเกินขอบเขต สามารถเกิดอันตรายทุกอย่าง เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องให้อยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็นและให้ปลอดภัยต่อชีวิตเราเป็นดีที่สุด

 “เมย์ว่าการที่จะทำตามแฟชั่นต้องดูเรื่องของความเหมาะสมความปลอดภัยเอาชีวิตเราเป็นหลักอย่าไปทำอะไรที่เสี่ยงต่อชีวิต ส่วนตัวเมย์ตอนที่ทำแพลงกิ้งตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แต่พอกลับมาดูรูปยังรู้สึกเลยว่าเราทำได้อย่างไร อายเหมือนกัน อยากที่จะลบรูปออก แต่ทำไม่ได้เพราะว่ามันกระจายไปหมดแล้ว ก็อยากเตือนวัยรุ่นว่าการที่จะทำอะไรควรคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อน”

 พระเอกหนุ่ม ‘บอย’ ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรูปว่าแบ๊ตแมนนิ่งเล่นอย่างไร ส่วนตัวถ้ารู้สึกว่ามันไม่อันตราย อาจจะทำ
 
แต่ว่าถ้ารู้แล้วอันตรายไม่ทำแน่นอน แต่เท่าที่ได้ฟังจากคำอธิบาย ถ้าเกิดว่าทำแล้วเกิดพลาดขึ้นมาก็อาจจะคอหักได้ ส่วนตัวตอนที่ทำแพลงกิ้ง ทำตอนที่อยู่ในกองละคร เป็นการเล่นกันสนุกๆ เอารูปมาดูกันก็ยังตลกอยู่

 “ยังไงผมขอเตือนๆน้องๆ หรือใครที่จะทำตาม ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ถ้าดูแล้วมันอันตรายมาก อย่าทำเลย  มันไม่ใช่แฟชั่น ไม่ใช่ที่สิ่งที่ไม่ทำแล้วจะรู้สึกว่าเราตกเทรนด์ หรือน่าอาย แต่ถ้าอยากทำก็ควรทำอย่างมีสติ ทำให้ปลอดภัยที่สุด อย่าทำบ่อยเพราะว่ามันอันตรายเกิดพลาดขึ้นมาอาจจะถึงกับชีวิตได้ครับ”

 ส่วนนักร้องหนุ่ม ‘เป้’อารักษ์ อมรศุภศิริ กล่าวว่า รู้สึกว่าอันตราย มีผลต่อกระดูกต้นคอแน่นอน

ก่อนที่จะเล่นอะไรก็ควรดูสุขภาพของตัวเองเป็นหลัก ถ้าพลาดบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้มันน่าอายมาก ถ้าเกิดทำแล้วไม่เดือดร้อนใครก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าทำแล้วพลาดเจ็บตัว เดือดร้อนถึงคนที่เขารักคุณ อันนี้ก็ควรที่จะคิด ดูเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักดีกว่า