ดญ.ป.4เก็บได้ 1.4แสนส่งตร.

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ร.ต.ท.นพดล กิ่งทอง ร้อยเวร สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ปฏิบัติหน้าที่อยู่ บนโรงพักเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 เม.ย. ได้มี ด.ญ.บุลภร วงศ์ภาณุวัฒน์ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนอนุบาลสุธีธร อ.เมืองนครปฐม ลูกสาวเจ้าของร้านถ่ายรูปบ้านโป่งโฟโต้ ตั้งอยู่ถนนทรงพล เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย น.ส.จำลักษณ์ จันทร์เปรม อายุ 40 ปี พี่เลี้ยง หิ้วกระเป๋าถือสีดำแบบผู้หญิง ภายในมีเงินสดจำนวนมาก มาเข้าพบเพื่อให้ตำรวจติดตามหา เจ้าของกระเป๋าที่ทำหล่นไว้หน้าธนาคารนครหลวงไทย สาขา อ.บ้านโป่ง

จากการสอบถาม ด.ญ.บุลภรเปิดเผยด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาว่า
 
ก่อนเกิดเหตุคุณพ่อใช้ให้ไปแลกเหรียญ 10 บาท และเหรียญ 5 บาท ที่ธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านถ่ายรูป โดยให้พี่เลี้ยงพาไป เพราะต้องเดินข้ามถนน เมื่อถึงหน้าธนาคารหันไปเห็นกระเป๋าถือสีดำทรงกลมแบบมีหูหิ้วหล่นอยู่ริมถนนติดฟุตปาทซึ่งมีคนเดินผ่านไปมาแต่ไม่มีใครสนใจ จึงเดินเข้าไปเก็บ เมื่อเปิดออกดูก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นมีเงินสดปึกใหญ่ รีบบอกพี่เลี้ยงให้พามาที่โรงพักมอบให้ตำรวจสืบหาเจ้าของ เมื่อเปิดออกนับเงินสดในกระเป๋ามีจำนวนทั้งสิ้น 140,443 บาท และยังมีสลิปเงินฝากของธนาคารนครหลวงไทย สาขาบ้านโป่ง อีก 1 ใบ จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน ร.ต.ท.นพดล กิ่งทอง ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า
 
ในวันเดียวกันได้นำสลิปเงินฝากที่อยู่ในกระเป๋าถือไปตรวจสอบที่ธนาคาร ทราบชื่อเจ้าของบัญชีคือนางบุญมี เปลี่ยนขำ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 11 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เป็นเจ้าของอู่ต่อรถบัสโดยสารชื่ออู่ประทีปมีทรัพย์ และยังเป็นประธานสภาเทศบาลตำบลกระจับ อ.บ้านโป่ง จึงรีบติดต่อไปยังนางบุญมีให้ทราบ สร้างความดีใจให้เป็นอย่างมาก แต่นางบุญมีอยู่ต่างจังหวัด จึงยังไม่สามารถมารับกระเป๋าเงินคืนได้ ขอให้ตำรวจเก็บกระเป๋าไว้ พร้อมนัด ด.ญ.บุลภร และพี่เลี้ยงให้มาพบที่ สภ.บ้านโป่ง ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณ

ต่อมาเวลา 09.30 น.วันที่ 19 เม.ย. นางบุญมี เปลี่ยนขำ เจ้าของกระเป๋าเงินเดินทางมาที่ สภ.บ้านโป่ง เข้าพบ ร.ต.ท.นพดล กิ่งแก้ว ร้อยเวร
 
พร้อมด้วย ด.ญ. บุลภร วงศ์ภาณุวัฒน์ หนูน้อยผู้ซื่อสัตย์ และ น.ส.จำลักษณ์ จันทร์เปรม พี่เลี้ยง เพื่อรับกระเป๋าเงินคืน โดยได้กล่าวขอบคุณและมอบสินน้ำใจให้ ด.ญ.บุลภร จำนวน 1 หมื่นบาท น.ส.จำลักษณ์ และ ร.ต.ท.นพดล อีกคนละ 5 พันบาท จากนั้นนางบุญมีเปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวันที่ 18 เม.ย. ได้ให้เสมียนของอู่นำเงินไปฝากที่ธนาคารนครหลวงไทย สาขาบ้านโป่ง จำนวน 134,000 บาท ส่วนอีก 6 พันบาทเศษที่เหลือให้ไปซื้ออะไหล่รถ โดยเขียนชื่อและจำนวนเงินในใบสลิปเงินฝากไปให้เรียบร้อย ผ่านไปครู่ใหญ่ เสมียนโทรศัพท์มาบอกว่าทำเงินหล่นหายโดยไม่ทราบว่าไปหล่นที่ไหน จึงให้ออกตามหาตามเส้นทางต่างๆที่ผ่านมาก็ไม่พบ ในใจคิดว่าคงสูญหายไปแล้ว หรืออาจไปจอดรถไว้ที่ไหนแล้วถูกคนร้ายขโมยไป

เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของเงินกล่าวต่อไปว่า

จนกระทั่งตำรวจโทรศัพท์มาบอกว่ามีเด็กหญิงเก็บกระเป๋าเงินของตนได้ รู้สึกดีใจมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินจำนวนไม่มากแต่ก็เป็นเงินจากหยาดเหงื่อแรงงานที่ทำมา จึงอยากมาพบเด็กหญิงที่เก็บเงินได้เพื่อขอขอบคุณ ยังคิดอยู่ว่าในโลกนี้ยังมีเด็กอย่างนี้อีกหรือ แสดงว่า ด.ญ.บุลภรได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากผู้ปกครองและโรงเรียนมาอย่างดี สมควรแก่การยกย่อง นอกจากจะมอบเงินเป็นสินน้ำใจให้แล้ว จะไปชื่นชมกับพ่อแม่ และเมื่อเปิดเทอมจะไปที่โรงเรียนเพื่อทำหนังสือถึงครูใหญ่ให้ยกย่องเด็กคนนี้เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีกับนักเรียนคนอื่นๆด้วย