ญี่ปุนเช็คยิบปืนบิ๊กแจ๊ด ไร้ทะเบียน คดีถึงอัยการรอสั่งฟ้อง

ญี่ปุนเช็คยิบปืนบิ๊กแจ๊ด ไร้ทะเบียน คดีถึงอัยการรอสั่งฟ้อง

 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

 กล่าวถึงความคืบหน้าคดี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(อดีต ผบช.น.) ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมที่สนามบินนาริตะ พร้อมอาวุธปืน North American Arms.22 และกระสุน 5 นัด ที่เก็บไว้ในกระเป๋ายา ระหว่างรอขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทย ว่า ขณะนี้อัยการญี่ปุ่นได้รับสำนวนคดีไว้พิจารณาแล้ว แต่ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องเพราะต้องใช้เวลาพิจารณาสำนวนคดีตามกรอบระยะเวลาควบคุมตัว 10 วัน หากยังไม่เสร็จสามารถขอควบคุมตัวเพิ่มได้อีก 10 วัน แต่ไม่เกิน 20 วัน ตามกฎหมายญี่ปุ่น

โฆษก สตช. กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตำรวจญี่ปุ่นได้นำอาวุธปืนไปตรวจสอบที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจญี่ปุ่น

เพื่อทดสอบอานุภาพความรุนแรงว่ามากน้อยเพียงใด และถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลมาสรุปเสนอให้อัยการญี่ปุ่นพิจารณาประกอบสำนวนว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนของญี่ปุ่นมีโทษหนัก ประชาชนไม่สามารถพกพาหรือมีไว้ในความครอบครองได้ แต่จะอนุญาตให้ประชาชนบางจังหวัดมีไว้ในความครอบครองได้ คือ ปืนยาวที่ใช้ล่าสัตว์ในฤดูกาลล่าสัตว์เท่านั้น ซึ่งผู้ที่สามารถครอบครองอาวุธปืนประเภทนี้ได้ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป อีกประเภท คือ ปืนสำหรับใช้ในการกีฬาเท่านั้น

รายงานข่าว แจ้งว่า จากการที่ตำรวจญี่ปุ่นได้ตรวจสอบอาวุธปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์


ปรากฏว่าไม่พบรายละเอียดการตอกเลขรหัส หรือหมายเลขทะเบียนประจำปืน ซึ่งหากเป็นอาวุธปืนที่เสียภาษีอย่างถูกต้องของประเทศไทยจะตอกตัวอักษรไทยและเลขไทยไว้ตรงด้ามจับของอาวุธปืนเท่านั้น เพราะอาวุธปืน North American Arms.22 เป็นอาวุธปืนขนาดเล็กน่าจะตอกตัวอักษรไทยและเลขไทยได้บริเวณด้ามจับเพียงอย่างเดียว แต่ตำรวจญี่ปุ่นยังตรวจไม่พบ โดยได้ประสานให้ญาตินำเอกสารเกี่ยวกับปืนดังกล่าวมายืนยันแล้ว

ด้านนายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ(สน.สก.) กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย(มท.) กล่าวว่า

จากการตรวจสอบฐานข้อมูลเบื้องต้นของ สน.สก.ปรากฏว่าไม่พบการขึ้นทะเบียนปืนดังกล่าว ซึ่งตนได้ประสานไปยังหน่วยงานที่ จ.ปทุมธานี ที่เป็นภูมิลำเนาของเจ้าของปืน เพื่อตรวจสอบรายละเอียดหลักฐานแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่ในฐานข้อมูลของปืนรุ่น North American Arms.22 มี 600 กว่ากระบอกที่จดทะเบียนถูกต้อง

“ผมยังไม่ยืนยันว่าปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นปืนเถื่อนหรือไม่ เพราะมองได้ 2 กรณี คือ 1.เนื่องจากการขึ้นทะเบียนปืนนั้น แต่เดิมเราใช้การจดทะเบียนด้วยมือ
ต่อมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมาเราใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการจดทะเบียน และโอนข้อมูลจากระบบเดิมมาระบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้เลขรหัสประจำปืนตกหล่นได้ และ 2.ปืนดังกล่าวมีผู้อื่นให้มา หรือนำเข้ามา และยังไม่มีการแจ้งต่อนายทะเบียน ทำให้ไม่พบเลขรหัสประจำปืน” นายศักดิ์ชัย กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด กล่าวว่า เ
ท่าที่ตรวจสอบพบว่าเมื่อไปถึงญี่ปุ่นทางเจ้าหน้าที่สนามบินนาริตะ ได้นำกระเป๋าของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เข้าเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ CTX รุ่น 9800 และพบรูปปืนชัดเจน จึงทำการเปิดกระเป๋าแล้วพบปืนจริง จึงให้ตำรวจไปหาตัว และจับกุม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทันที

“ถือว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ โชคไม่ดี เพราะกระเป๋าถูกตรวจด้วยเครื่องรุ่นใหม่ คือ CTX 9800 ที่สนามบินนาริตะเพิ่งติดตั้งเสร็จ ภาพที่ได้จึงชัดเจนกว่ารุ่น CTX 9400 ที่สนามบินสุวรรณภูมิมาก โดยสนามบินนาริตะมีเครื่อง CTX 9800 และ CTX 9400 รวมทั้งหมด 40 เครื่อง ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิ มี CTX 9400 แค่ 26 เครื่อง” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวอีกว่า ตามปกติเครื่อง CTX จะมีโปรแกรมและระบบสั่งงานให้ตรวจจับสิ่งใดก็ได้ตามความหนาแน่นและชนิดของมวลสาร

เช่น ระเบิดทุกชนิด ยาเสพติด ทุเรียนกวน ขนมโก๋ หรือ แม้กระทั่งกะปิ หรือน้ำบูดู ก็ตรวจพบได้หมด แต่หากสั่งให้ต้องตรวจค้นหาทุกอย่าง เครื่องจะต้องตรวจ แบบละเอียด ความสามารถของระบบโดยรวมก็จะช้าลง ซึ่งสนามบินสุวรรณภูมิ มีเครื่อง CTX 9400 จำนวน 26 เครื่อง เวลาชั่วโมงเร่งด่วน หรือมีผู้โดยสารในชั่วโมงนั้นมาก(PEAK HOUR) เครื่องจะถูกตั้งโปรแกรม ให้ตรวจหาเฉพาะวัตถุระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และไม่ได้ถูกตั้งโปรแกรมให้จับวัตถุที่มีรูปร่างคล้ายปืน หรือคล้ายอาวุธ แต่จะเตือนและแสดงภาพให้เจ้าหน้าที่เห็นถึงจำนวนโลหะที่มีมากเกินไปในกระเป๋าใบนั้นๆ

ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

ทางการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) สมควรแจ้งความดำเนินคดีอาญาข้อหาพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ด้วย เพราะมีการพกพาอาวุธปืนเข้ามาในสนามบิน ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ควรตั้งคณะกรรมการเตรียมถอดยศ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไว้ล่วงหน้าเพราะการกระทำดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียแก่ตำรวจไทยเป็นอย่างมาก แบบนี้เขาเรียกว่าท่านนายพลไทยทำขายขี้หน้าไปทั่วโลก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์