“ซูจี” จี้ “เหลิม” ดูแลแรงงานพม่า ขู่ไม่ใส่ใจจะขนกลับประเทศ

“ซูจี” จี้ “เหลิม” ดูแลแรงงานพม่า ขู่ไม่ใส่ใจจะขนกลับประเทศ

วันที่ 31 พ.ค. เวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางออง ซาน ซู จี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมาร์
 
เข้าพบและหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยมีอธิบดีกรมการจัดหางาน และบุตรชายทั้ง 3 คนของ ร.ต.อ.เฉลิม ร่วมในวงหารือด้วย โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศร่วมรับฟังด้วย

การหารือใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง โดย ร.ต.อ.เฉลิม ได้ชี้แจงว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับแรงงานพม่าในไทย

ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 2 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 8 แสนคน ที่เหลืออีก 1.2  ล้านคนยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการทำเอ็มโอยูกับรัฐบาลพม่าเพื่อให้เร่งพิสูจน์สัญชาติให้ถูกต้องตามขั้นตอน โดยแรงงานที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะได้รับสิทธิรักษาพยาบาลตามนโยบายประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันเช่นเดียวกับแรงงานไทย  การดูแลบุตรหลานแรงงานพม่าให้ได้รับสิทธิเข้าศึกษาในโรงเรียน นอกจากนี้ก่อนที่ตนจะเดินทางมาหารือ ทางนายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำให้ตนมาแจ้งว่ารัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้แรงงานพม่าได้รับการดูแลเหมือนญาติพี่น้อง


ด้านนางซูจี ยังได้สอบถามถึงการแก้ปัญหาแรงงานพม่าที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีก 1.2 ล้านคน พร้อมขอให้รัฐบาลไทย

ช่วยดูแลและกวดขันผู้ประกอบการให้ดูแลเรื่องสวัสดิการ และการรักษาพยาบาลให้ดี เพราะจากที่ตนได้ไปพูดคุยกับแรงงานชาวพม่าในประเทศไทย ได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ประกอบการไม่ดูแลเอาใจใส่ และยังยึดพาสปอร์ตไว้ เพื่อไม่ให้มีการย้ายหรือลาออกจากงาน และเวลาที่เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ผู้ประกอบการจะไม่ชดเชยและชดใช้ค่าเสียหาย อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิมได้ชี้แจงว่า อย่าไปสนใจ ในอดีตเคยมีเรื่องนี้ แต่พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้เรามีคณะกรรมการและนโยบายที่ชัดเจนทำให้ปัญหาต่าง ๆ ลดน้อยลง อีกทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆซึ่งเป็นเพื่อนตน ก็ดำเนินการตามกติกาที่กำหนด และวันนี้หากไม่มีแรงงานชาวพม่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็อยู่ไม่ได้ เพราะแรงงานไทยไม่ทำอาชีพเหล่านี้

นางอองซานซูจี กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้าสถานการณ์ในประเทศพม่าดีขึ้นจะนำแรงงานพม่ากลับทั้งหมด
 
“ดังนั้นรัฐบาลไทยจะต้องทำให้เขามีความสุขในการอยู่ประเทศไทยให้ได้ มิเช่นนั้นดิฉันจะแย่งคืนกลับไป” นางอองซานกล่าวเชิงหยอกล้อ พร้อมบอกว่า การที่รัฐบาลไทยดูแลแรงงานชาวพม่าเป็นอย่างดี จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้น และเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งความเข้าใจและวัฒนธรรมได้มาก ต้องขอบคุณทุกความดีและการดูแลผู้อพยพและผู้หนีภัยสงครามชาวพม่าของคนไทย และรัฐบาลไทย เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถร่วมกันแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็ก ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเดนมาร์ก แต่ดูแลผู้ลี้ภัยชาวพม่าเป็นอย่างดี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายการหารือ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้กล่าวชื่นชมนางซูจี ในฐานะเป็นนักประชาธิปไตย
 
โดยระบุว่า “ถ้ามาลงเลือกตั้งในประเทศไทย ผมคงหนักใจ เพราะเป็นป๊อบปูล่า (ได้รับความนิยม) มาก และเป็นที่ยอมรับ ถือโอกาสอวยพรให้ชนะการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในพม่าในปี 2559" ขณะที่นางซูจี ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมหยอกกลับว่า จิตใจของสุภาพบุรุษมีความคิดอย่างไรไม่รู้ แต่ถ้ามาลง คิดว่าตนได้ใจจากสุภาพสตรีไทยแน่นอน และยังได้แซว ร.ต.อ.เฉลิม ที่พาลูกชายทั้ง 3 คนมาร่วมหารือด้วย “แต่ทำไมไม่พาภรรยามา มิฉะนั้นดิฉันจะขอทำหน้าที่แทนนะ” ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ได้แต่หัวเราะชอบใจ จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม ได้พาบุตรชายทั้ง 3 คนมาถ่ายรูปคู่กับนางอองซานซูจีอย่างเป็นกันเองก่อนมอบของที่ระลึกให้



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์