ซิ่งจยย.ฉีดน้ำกรดดะ-สาวโคราชป่วน


ตร.ล่าหนุ่มโคราชโรคจิตซิ่งจยย.ประกบเหยื่อสาว ฉีดน้ำกรดใส่ก่อนซิ่งหนี ไม่ทำร้ายหรือชิงทรัพย์ โดนติดๆ กันนับสิบราย ที่ขามสะแกแสง เผยรูปพรรณเป็นชายวัย 40 ปี ผอมสูง ผิวคล้ำ ขี่จยย.แบบผู้หญิง ตร.พอทราบเบาะแสแล้ว ประกบตัวใกล้ชิด สงสัยพวกคึกคะนองหรือไม่ก็พวกโรคจิต

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. มีหญิงสาวหลายรายถูกส่งต่อมาจาก ร.พ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา มาเข้ารับการรักษาต่อที่แผนกจักษุ ชั้น 6 อาคาร 8 ชั้น ร.พ.มหาราช อ.เมืองนครราชสีมา โดยหญิงสาวทั้งหมดมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่บริเวณดวงตาทั้ง 2 ข้าง และจากการสอบถามต่างระบุว่า ถูกคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ฉีดน้ำกรดใส่ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน

สำหรับหญิงสาวที่ถูกส่งตัวมารักษาที่ร.พ. มหาราช มีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย น.ส. ละอองดาว หิ้งงาม อายุ 28 ปี นักวิชาการศึกษา อบต.โนนเมือง อ.ขามสะแกแสง, น.ส.ประภัสสร สมศรีโย อายุ 25 ปี เจ้าของร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ต.ชีวึก อ.ขามสะแกแสง, น.ส.กชกร เลี่ยงภูมิ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย, และนางพัชรา สมิสสุตานนท์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 1 ต.ชีวึก อ.ขามสะแกแสง

นางพัชรา หนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ รูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 30-40 ปี สวมหมวกกันน็อกขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามประกบ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปตามถนนภายในเขต อ.ขามสะแก แสง ก่อนลงมือคนร้ายจะบีบแตรรถทักทายเหมือนเป็นคนรู้จักกัน แต่เมื่อหันหน้ามามอง คนร้ายก็จะฉีดน้ำกรดจากขวดพลาสติกสีขาวขุ่นพุ่งเข้าใส่ที่ตา ปวดแสบปวดร้อนที่ดวงตาต้องเข้ารักษาตัวที่ร.พ.ขามสะแกแสง ก่อนแพทย์จะส่งตัวมารักษาต่อที่ร.พ.มหาราช หลังจากลงมือคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไป โดยที่ไม่ได้ทำร้าย หรือชิงทรัพย์สินแต่อย่างใด

ด้าน น.ส.ประภัสสร อีกหนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะเดียวกันตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดนคนร้ายฉีดน้ำกรดเข้าที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง จนไม่สามารถมองเห็นได้ในช่วงแรก แต่ขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับแล้ว ยังคงเหลือเพียงดวงตาข้างขวาอีกข้าง ที่ยังคงปวดแสบอยู่ แพทย์ยังไม่อนุญาตให้กลับบ้าน หลังคนร้ายลงมือฉีดน้ำกรดใส่แล้ว ก็ขับขี่รถหนีไปโดยที่ไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใด

น.พ.ณัฐชัย นิธิอภิญญาสกุล หัวหน้ากลุ่มงานจักษุแพทย์ ร.พ.มหาราช กล่าวว่า จากการตรวจอาการในเบื้องต้น พบว่าสารเคมีที่ถูกฉีดพ่นเข้าไปในดวงตาของผู้ป่วยทั้ง 4 เป็นสารเคมีเหลวที่ไม่สามารถระบุว่าเป็นสารเคมีชนิดใน เนื่องจากถูกล้างออกไปก่อนมาถึงโรงพยาบาล ทราบแต่เพียงว่ามีฤทธิ์ความเป็นด่าง จากการรักษาขณะนี้ผู้ป่วยอาการโดยรวมดีขึ้น แต่ยังคงมีอาการถลอกที่กระจกตา แพทย์รักษาด้วยวิธีการล้างตาด้วยน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นเท่ากับน้ำตา เพื่อปรับค่าความเป็นด่างให้ลดน้อยลง และต้องให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีกสักระยะเพื่อดูอาการ และใช้กระดาษทดสอบความเป็นกรดด่าง ตรวจสอบน้ำตาของผู้ป่วยเป็นระยะๆ เพื่อวัดปริมาณความเป็นด่างและปรับสภาพให้ความเป็นด่างลดลง

น.พ.ณัฐชัย กล่าวว่า สำหรับสารเคมีที่มีฤทธิ์ความเป็นด่างหากเข้าไปในตาแล้ว ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจจะทำให้ตาบอดได้ เนื่องฤทธิ์ความเป็นด่างจะไม่เหมือนฤทธิ์ความเป็นกรด ที่จะทำลายส่วนที่ถูกสัมผัส แต่ฤทธิ์ความเป็นด่างหากเข้าตาแล้วจะแทรกซึมเข้าไปในเยื่อตาชั้นใน หากล้างออกไม่หมด ฤทธิ์ความเป็นด่างจะทำลายเยื่อตาไปเรื่อยๆ จนตาอาจถึงขั้นบอดได้ ขณะนี้แพทย์ประสานไปยังผู้ป่วยอีก 2 ราย ที่เข้ามารับการรักษาก่อนหน้านี้แล้ว ให้กลับมารักษาและนอนที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการและล้างตาอีกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากฤทธิ์ความเป็นด่างที่เข้าตาจากสารเคมีเหลว ส่วนการป้องกันและรักษาสารเคมีที่มีฤทธิ์ความเป็นด่างเข้าตา ในเบื้องต้นให้ผู้ป่วยรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด เพื่อเจือจางสารเคมีที่เข้าตา ก่อนรีบมาพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพื่อล้างตาด้วยเกลืออีกครั้ง และรับการรักษาอย่างถูกวิธี

ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดีนี้ พ.ต.ต.สม บูรณ์ จันทร์โท สว.สส.สภ.ขามสะแกแสง กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย. ได้รับแจ้งความจากประชาชนในท้องที่ ว่าถูกคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ตามประกบ และฉีดสารเคมีใส่ตา มีจำนวนทั้งสิ้น 3 ราย ผู้เสียหายทั้งหมดเป็นหญิงสาวอายุระหว่าง 25-40 ปี นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่ามีหญิงสาวอีกนับ 10 ราย ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้เช่นเดียวกัน ทางตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความไว้ทั้งหมดแล้ว ต่างให้การตรงกันว่า รูปพรรณ สัณฐานของคนร้ายเป็นชาย อายุประ มาณ 40 ปี รูปร่างสูงผอม ผิวคล้ำ พฤติกรรมของคนร้ายจะใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ขับขี่ตามประกบเหยื่อ โดยจะเลือกเฉพาะเหยื่อที่เป็นผู้หญิงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายที่ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง ในช่วงเวลา 19.30-21.00 น. จากนั้นใช้ขวดน้ำพลาสติกดัดแปลงเป็นขวดสเปรย์บรรจุสารเคมีฉีดใส่ตา และหลบหนีไป แต่คนร้ายไม่ประสงค์ทรัพย์ หรือกระทำความเสียหายใดๆ กับเหยื่ออีก

สว.สส.สภ.ขามสะแกแสง กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อหาเบาะแสจนพอที่จะทราบตัวคนร้ายแล้ว และชุดสืบสวน สภ.ขามสะแกแสง กำลังเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด เพื่อหาหลักฐานมัดตัวคนร้าย คาดว่าจะสามารถหาหลักฐานมาจับกุมตัวได้ไม่เกินสัปดาห์นี้ ส่วนเหตุจูงใจที่ทำให้คนร้ายก่อเหตุ น่าจะเป็นเพียงความพอใจส่วนตัว และความคึกคะนองของคนร้ายที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่น และอาจจะมีอาการทางจิต แต่ต้องรอสอบสวนภายหลังการจับกุมตัวคนร้ายได้ก่อน

ด้าน พ.ต.อ.ยศวริชท์ ภูการุณย์ ผกก.สภ.ขาม สะแกแสง กล่าวว่า ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วนับสิบราย โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คนเดียวในเวลากลางคืน สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามหาเบาะ แสของคนร้ายโรคจิตรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว อยากฝากเตือนประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ตอนกลางคืนให้ระมัดระวังตัวเอง หากพบเห็นสิ่งใดผิดสังเกต ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์