ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย กว่าจะมาเป็น หมอเผ่า

ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2520


สถาบันกวดวิชาแอพพลายฟิสิกส์เดิมชื่อ PACS (สถาบันกวดวิชาอาจารย์ช่วง) เช่าเปิดสอนกวดวิชาที่โรง เรียนพณิชยการเจ้าพระยา 1 ปี โดยมี อาจารย์ช่วง ทมทิตชงค์ บิดาของตระกูล ทมทิตชงค์ เป็นอาจารย์ใหญ่และผู้บริหาร


แต่กิจการประสบปัญหาขาดทุนและครูลาออกหมด


ติดหนี้สินหลายสิบล้านบาท นพ.ประกิตเผ่า ที่เพิ่งเรียนจบ แพทย์ ทำงานได้แค่ 2 ปี ตัดสินใจลาออกจากอาชีพเดิมมานั่งแท่นผู้บริหารแทนบิดา ปรากฏว่าประสบความสำเร็จท่วมท้น เปลี่ยนชื่อเป็นสถาบันกวดวิชาแอพพลายฟิสิกส์จนถึงปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท/ปี

นิตยสารดิฉัน ฉบับวันที่ 30 ก.ย. 2545


เคยตีพิมพ์คำสัมภาษณ์ของ นพ.ประกิตเผ่า ไว้ตอนหนึ่งว่า คนอย่างผมจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ศูนย์ก็ต้องถึงร้อย ผมตั้งใจแน่วแน่ว่าถ้าผมจะสอน จะสอนให้ดีที่สุด ให้เด็กแย่งกันมาเรียนกับผมหรือไม่ก็เลิกสอนไปเลย

บทความส่วนหนึ่งของหนังสือ GM


ที่เสนอชีวิตด้านบวกของ นพ.ประกิตเผ่า ไว้อย่างสวยหรูถึงความสำเร็จในอาชีพอาจารย์ว่า หากถามว่าผมถึงจุดสูงสุดหรือยัง คงตอบว่ายัง เพราะหากรู้สึกว่าเมื่อไหร่ถึงจุดสูงสุดแล้ว งานจะไม่พัฒนาอีกต่อไป นั่นคือจุดเริ่มต้นของความเสื่อมถอย ตอนนี้ผมรู้สึกชอบในความเป็นครูมากกว่าเป็นแพทย์

ด้านหนังสือ Life&Family เคยสัมภาษณ์พิเศษ อาจารย์ช่วง และ นพ.ประกิตเผ่า สองพ่อลูกนักกวดวิชาไว้เช่นกันว่า


เป็นความมุ่งมั่นที่ประสบความสำเร็จ จากโรงเรียนกวดวิชาเล็ก ๆ ย่านสยามสแควร์ มีนักเรียนไม่กี่ร้อย ทุกวันนี้แอพพลายฟิสิกส์เป็นสถาบันกวด วิชาที่ติดอันดับได้รับความนิยมของวัยรุ่นไทย มีจำนวนนักเรียนมากกว่า 10,000 คน/ปี ขยายสาขาไปกว่า 13 แห่งทั่วประเทศ


จากตึกเรือนสภาพทรุดโทรมกลายเป็นอาคารโอ่โถงทันสมัย


ติดแอร์เย็นฉ่ำ มีมุมนั่งจิบกาแฟสำหรับผู้ปกครองที่มานั่งรอรับบุตรหลาน ไม่ต่างจากร้านอาหารหรือโรงแรมหรู ๆ การสอนก็พัฒนาใช้กล้องวิดีโอวงจรปิด ช่วยให้เด็กเห็นภาพได้ทั่วถึง ไม่มีปัญหาการยื้อแย่งนั่งแถวหน้าอีกต่อไปและสามารถเพิ่มจำนวนนักเรียนได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นความสามารถที่เหลือเชื่อของสองพ่อลูก

ที่ผ่านมาหากเอ่ยชื่อ นพ.ประกิตเผ่า ถือได้ว่าเป็นผู้ทรงความรู้ที่หาตัวจับยากในแวดวงนักวิชาการ


เคยเป็นอดีตอาจารย์ฟิสิกส์ห้องคิง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายาวนาน 25 ปี

เป็นอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เคยได้รับรางวัล ครูฟิสิกส์ดีเด่นในปี 2535

ได้รับรางวัล A highly popular tutorial school จากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น

เป็นติวเตอร์ชื่อดังในรายการ Hi Night At Hi Noon ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3

เป็นพิธีกรรายการ ผู้หญิงอยากรู้ 100% ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และเ

เป็นอาจารย์ อยากเรียนเก่งฟังทางนี้ ของรายการดรุณธรรมทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

ปีที่แล้ว นพ.ประกิตเผ่า เพิ่งออกรายการ สุริวิภา


ของพิธีกรชื่อดัง หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา เล่าเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตว่าเป็นบุตรชายคนที่ 3 ของครอบครัว ในจำนวนพี่น้อง 4 คน พ่อแม่เป็นครูทั้งคู่ ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก หากอยากได้เงินต้องไปรับจ้างถีบสามล้อ ขายเรียงเบอร์ ตั้งแต่วัยเด็ก ชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาจนเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล


เรียนจบเป็นแพทย์ได้ 2 ปีก็ลาออกมาบริหารสถาบันกวดวิชา


ทำมาแล้วทุกอย่างตั้งแต่ ยาม ภารโรง เด็กแจกใบปลิว อาจารย์ ผู้บริหาร จนสามารถพัฒนาสถาบันให้เป็นที่ยอมรับของนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศไทย

ซึ่งติวเตอร์คนดังยอมรับว่า


การเป็นครูไม่ใช่เรื่องง่ายและการรับภาระใช้หนี้สินจำนวน 10 ล้านบาทที่ไม่ได้ก่อ เคยท้อถอยถึงขั้นล้มป่วย ปวดท้อง น้ำตานองหน้า แต่ก็สู้ไม่ถอยคิดว่าทำอะไรขอทำดีที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ 2 ปีสามารถใช้หนี้สินจนหมดและทำให้สถาบัน กวดวิชาเข้มแข็งถึงวันนี้

ทั้งหมดเป็นเรื่องราวบางส่วนของติวเตอร์ชื่อดัง นพ.ประกิตเผ่า ผู้เคยใช้ความรู้ความสามารถสั่งสอนลูกศิษย์ให้ป ระสบความสำเร็จในชีวิตมาแล้วมากมาย แต่วันนี้แทบไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกลายเป็น คนบ้า ถูกคุมขังอย่างโดดเดี่ยวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา เท็จจริงเป็นเช่นไรเชื่อว่าอีกไม่นานสังคมคงได้รับรู้กันอย่างแน่นอน.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์