ชาวแพร่ยังแห่ตักน้ำบ่อลูกรังรักษาโรค กรมอนามัยเข้าตรวจสารปนเปื้อน

ชาวแพร่ยังแห่ตักน้ำบ่อลูกรังรักษาโรค กรมอนามัยเข้าตรวจสารปนเปื้อน

จากกรณีชาวบ้านในต.ป่าแมต และตำบลใกล้เคียงอ.เมือง รวมทั้งชาวบ้านจากต่างอำเภอของจังหวัดแพร่ ต่างพากันมาตักน้ำในบ่อลูกรังที่หมู่ 5 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่
 
ไปดื่มและอาบ เพื่อเป็นยารักษาโรค โดยเชื่อว่าน้ำในบ่อเป็นยาที่เกิดจากผีป่าในลำห้วยจำแดง เป็นผู้ประทานให้เพื่อรักษาโรคของผู้คนในบริเวณดังกล่าว  มีผู้ป่วยด้วยโรคคันตามผิวหนัง  ผู้ป่วยปวดตามข้อ  กระดูกสันหลังและ อัมพฤกษ์ นำน้ำไปดื่มกินทำให้อาการป่วยลดลง    มีประชาชนยังทยอยออกมาตักน้ำไปรักษาโรคอย่างหลากหลายและมีจำนวนมากมาจุดธูปขอเลขเด็ดแต่ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จเท่ากับการรักษาโรคที่มีเสียงร่ำลือไปทั่วจังหวัดแพร่ ทั้งที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

วันที่ 3 พ.ค.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้นายเจริญ สิทธิศร  ปลัด เทศบาลตำบลป่าแมต

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองแพร่ พาเจ้าหน้าที่จาก กรมอนามัยเขต 10  จ.เชียงใหม่ นำโดยนายอเนก ศิริโหราชัย  นักวิชาการสาธารณสุข  พร้อมด้วยทีมงานเข้าเก็บตัวอย่างน้ำ  จำนวน 2  จุดในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว  เพื่อตรวจสอบสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำดังกล่าว  โดยนายอเนก ให้ข้อมูลว่า  หลังจากบ่อน้ำดังกล่าวมีประชาชนสนใจนำไปใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งมีทั้งนำไปใช้อาบ ทา และ ดื่ม  ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติและมีรายงานว่าบ่อน้ำดังกล่าวอยู่ใกล้กับบ่อทิ้งขยะของเทศบาลเมืองแพร่ด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่นำน้ำไปใช้

นายอเนก กล่าวด้วยว่า  ในการตรวจคุณภาพน้ำและสารปนเปื้อน  จะมีการตรวจอยู่ 20 ตัวชี้วัด
 
เช่น ความกระด้าง ความเป็นกรดด่าง  โลหะหนัก จำพวก  สารปลอด  ตะกั่ว  แคชเมี่ยม ฯลฯ  แต่ในการตรวจครั้งนี้มีการเพิ่มการตรวจอีก 2 ตัวชี้วัดคือ จะมีการตรวจ “สารซิลิเนี่ยม  และสารแบเลี่ยม” เพิ่มไปด้วย  สาเหตุที่ต้องตรวจเพิ่มเพราะสารเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากการปนเปื้อนมาจากบ่อขยะที่สามารถซึมผ่านใต้ดินได้ไกลถึง 1 กม. โดยบ่อน้ำนั้นอยู่ห่างบ่อขยะเทศบาลเมืองแพร่ไม่ถึง 1 กม.  กรณีที่มีประชาชนนำน้ำไปใช้แล้วหายจากโรคพอสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า  เกิดจากแร่ธาตุที่มีอยู่ในดิน และอาจเกิดจากการหมักของขยะถ้ามีการปนเปื้อนเข้ามาในใต้ดิน  อย่างไรก็ตามเป็นข้อสังเกตเท่านั้น ต้องรอการตรวจพิสูจน์โดยละเอียด โดยจะนำส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจพิสูจน์ที่กระทรวงสาธารณสุข จะรู้ผลภายใน 15 วัน  ถ้าพบว่ามีโลหะหนักปนเปื้อนจะต้องสั่งห้ามใช้น้ำในบ่อดังกล่าวทันที เพราะเป็นอันตรายอาจทำให้เกิดโรคอื่นตามมาในระยะยาวแต่ถ้าไม่พบสารหรือโลหะหนักที่เป็นอันตราย  ก็สามารถใช้ได้แต่ควรผ่านการต้มเสียก่อนเพราะน่าจะมีแบคทีเรียจำนวนมาก

"แม้ว่าทางเทศบาลตำบลป่าแมตจะออกคำเตือนหลายครั้ง แต่ประชาชนยังมั่นใจในการนำน้ำไปรักษาสุขภาพโดยมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลของการตรวจสอบ  ทางสาธารณสุขอำเภอเมืองแพร่ และ เทศบาลตำบลป่าแมต จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป" รายงานข่าว ระบุ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์