ชายคนนี้เอาลูกชิ้น ให้ แต่ ขอทานเอา กลับตอบกลับแค่ประโยคนี้ แค่ประโยคเดียว ....

ชายคนนี้เอาลูกชิ้น ให้  แต่ ขอทานเอา กลับตอบกลับแค่ประโยคนี้ แค่ประโยคเดียว ....


2วันที่ผ่านมา ผมไปเจอขอทานคนนี้ที่ร้านค้าสะดวกซื้อแห่งนึง เดินเข้าไปเปิดตู้แช่เย็นหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อนึงมา1ขวด ร่างกายของชายคนนี้
มอมแมม น้ำท่าไม่อาบ ผมรุงรังไม่ได้สระมาหลายปี รองเท้าไม่ใส่ ทุกคนในร้านต่างพากันหวาดระแวงกลัว แสดงความรังเกียจ รวมทั้งพนักงานของร้าน ชายคนนี้ยืนยิ้มอยู่ห่างๆลูกค้าที่ยืนต่อแถวเรียงคิวกันยาวเหยียด หลายต่อหลายคนกลัวเขา แต่หากใครได้รู้เจตนาจริงๆของผู้ชายคนนี้เขาเพียง

"รอคนอื่นชำระเงินเรียบร้อยเขาจะขอเป็นคนต่อคิวคนสุดท้าย"


ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับผู้ชายรุปร่างตัวมอมแมมคนนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนลุกค้าคนสุดท้ายวางผงซักฟอก ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม จากตระกร้า เขาค่อยๆเดินมาที่หน้าคัชเชียร์สินค้าเครื่องที่สาม วางเครื่องดื่มชูกำลัง ในมือของเขาที่กำเหรียญ เต็มไปด้วยเหรียญ บาท และเหรียญ 25สต. 50สต.มากมาย บรรจงนับ สายตาพนักงานทุกคนรังเกียจ ทุกคนหวาดระแวง ก่อนจะรับเงินจากมือดำๆสกปรกของชายผู้นี้แล้วคิดเงินให้ ก่อนจะเดินออกไป ผมในตอนนั้นครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะนึกเรื่องราวเกี่ยวกับเขาได้
เรื่องต่อไปนี้จะทำให้หลายคนถึงกับฉงนงงและยกนิ้วให้ผู้ชายคนนี้ที่มีเพียง

 "เสื้อผ้าเก่าๆและเชื้อโรค"

ชายคนนี้เอาลูกชิ้น ให้  แต่ ขอทานเอา กลับตอบกลับแค่ประโยคนี้ แค่ประโยคเดียว ....



ย้อนกลับไปปี2556 วันนั้นผมไปเล่นดนตรีเปิดหมวก เวลาสักประมาณ19.30น.ได้มั้ง กำลังเล่นสนุกสนานเลยกับเพื่อนคนนึงชื่อเสก ทำงานเป็น รปภ.ที่ห้างสรรพสินค้า เล่นกันบนสะพานลอย จู่ๆมีผู้ชายคนนึงลักษณะดังรูป 

แต่วันนั้นเขาเดินถือขวด เก็บขวด เดินมาผ่านไปผ่านมาสักราว5รอบได้มั้ง พอมารอบที่6โยนเงินให้1บ.

และยกมือไหว้ เวลาผ่านไปสัก1ปี เจอเขาอีก ครั้งนี้ผมเล่นคนเดียว เขาเดินมาให้1บ. และมานั่งฟังข้างๆผม พร้อมกับถือแก้วน้ำพลาสติกแก้วนึง ในสภาพที่ก้มหัวขอเงิน พลางฟังเพลงที่ผมเล่นผมร้อง ผมเดินไปถามชายผู้นี้ว่า "กินข้าวรึยังล่ะ" ชายคนนี้พยักต์หน้า ผมเดินไปซื้อลูกชิ้นอบสมุนไพรจากร้านรถเข็นของเพื่อนที่เป็นพ่อค้าที่รุ้จักกัน ในนั้นมีลุกชิ้นเนื้อ1ไม้ และไส้กรอกรมควัน1ไม้ ผมยื่นให้เขาเพราะเขามีน้ำใจกับผม ให้เงินตั้ง1บ. เยอะครับ เพราะในเนื้อตัวและชีวิตของเขาตอนนั้นมีไม่ถึง10บ. สิ่งที่ชายคนนี้ปฏิบัติกับผมคือ "ยกมือไหว้" พร้อมกับปฏิเสธ ผมบอกด้วยความรุ้สึกรักเขาด้วยคำพูดที่อ่อนโยนในเงินมหาศาลที่เขายกให้ผม "ว่าเอาไปเถอะ วันนี้พี่กินให้อิ่ม" ชายคนนี้กลับส่ายหัว และชี้ไปที่กีต้าร์ของผมแล้วปรบมือ รัว ก้มหัวให้ผม ผมก้มหัวให้เขา น้ำตาของผมไหลในวันนั้น ก่อนจะชี้ไปที่สุนัขจรจัดที่อยุ่ละแวกนั้น เดิมทีสุนัขตัวนี้มียามเลี้ยง แต่บางวันก็ไม่ให้ มันจึงอาศัยที่นั้นหลับนอน ด้วยร่างผอมติดกระดูก เดินตามกลิ่นมาหาผม ชายคนนี้ชี้ไปที่สุนัขและพูดว่า "มันยังไม่ได้กินเลย" เมื่อพูดจบประโยคชายคนนี้ลงไปกอดเล่นกับมัน หยิบถุงลุกชิ้นที่ผมซื้อ ลงไปให้สุนัขจรจัดตัวนั้นกิน ผมเจอเขาอีกครั้งในร้านสะดวกซื้อในวันนั้น แล้วกลับย้อนนึกไปถึงผู้ชายคนนี้ในเมื่อ2-3ปีก่อน นึกทีไรมันทำให้ผมมีความสุข สุขอย่างพองโต รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองมันพองโตขยายๆออกเรื่อยที่ได้นึกถึงผู้ชายคนนี้ อย่าดูคนเพียงเปลือก อย่าดูที่ภายนอก คนเลือกเกิดไม่ได้ 

เรื่องของขอทานผู้นี้เป็นตัวอย่างนึงที่ดีจะให้คนไทยอย่างพวกเราได้รู้ว่า

"มนุษย์เราเกิดมาเลือกที่จะเป็นคนครบ32ไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็น "คนดี"ได้"

ชายคนนี้เอาลูกชิ้น ให้  แต่ ขอทานเอา กลับตอบกลับแค่ประโยคนี้ แค่ประโยคเดียว ....



อย่างเฉกเช่นชายผู้นี้ ที่

"ความเป็นคนบ้านั่งพูดนั่งคุยนั่งหัวเราะคนเดียวของเขา ไม่สามารถขีดจำกัดให้เขาไม่สามารถที่จะเป็นคนดีได้ "

แล้วพวกเราคนไทยทุกคนล่ะ วันนี้ครบทั้ง32 วันนี้คุณเลือกที่จะเป็น "คนดี" แล้วหรือยัง

ขอบคุณ:: Title Wrestlemania

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์