ฉลองสงการนด์ 7 วันตาย 373 เจ็บเกือบ 4500

ภาพประกอบอินเตอร์เน้ต

(17เม.ย.) เวลา 11.00 น. นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เป็นประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2552 ประจำวันที่ 17 เม.ย.2552 โดยการรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนในวันสุดท้าย ของช่วง 7 วันระวังอันตรายของวันที่ 16 เม.ย. 2552 พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 343 ครั้ง มากกว่าปี 2551 จำนวน 55  ครั้ง ร้อยละ 19.10 ผู้เสียชีวิต 52 ราย มากกว่าปี 2551 จำนวน  8 ราย  ร้อยละ 18.18 ผู้บาดเจ็บ 371 ราย มากกว่าปี 2551 จำนวน 52 ราย ร้อยละ 16.30 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 40.66   รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ19.96
 

ขณะเดียวกัน พบว่า ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.90 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 61.10 เป็นบนถนน อบต. หมู่บ้าน ร้อยละ 35.08 และถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 31.41 โดยช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงกลางคืน ร้อยละ 61.35 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 31.61 ซึ่งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน อายุ20 - 49 ปี ร้อยละ 55.90 

สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี 13 ครั้ง   จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี พิษณุโลก เชียงราย ปทุมธานี และสมุทรสงคราม จังหวัดละ 3   ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี   44  จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี 16 ราย 

สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 - 16 เม.ย. 2552   เกิดอุบัติเหตุรวม 3 ,977 ครั้ง น้อยกว่าปี 2551 จำนวน 266 ครั้ง   ร้อยละ 6.27 ผู้เสียชีวิตรวม  373 ราย มากกว่าปี 2551 จำนวน 5 ราย ร้อยละ 1.36 ผู้บาดเจ็บรวม 4,332 ราย น้อยกว่าปี 2551 จำนวน 471 ราย ร้อยละ 9.81 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่เชียงราย145ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 14 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตทั้ง 7 วัน จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด ฉะเชิงเทรา ยโสธร อำนาจเจริญ สกลนคร น่าน และยะลา   จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 164 ราย 

ส่วนแนวทางของการบังคับใช้กฎหมายรวม   7 วัน   เรียกตรวจยานพาหนะตามมาตรการ 3ม. 2ข. 1ร. รวม    ,271,977 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 408 ,020 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีใบขับขี่ 137 ,806 ราย ร้อยละ 33.77   รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย   136 ,772 ราย ร้อยละ 33.52

ด้านนายอนุชา โมกขะเวส   อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรรมการและเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)กล่าวว่า เพื่อแก้ไขสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จะได้ประสานให้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัด ดังนี้

ด้านการบังคับใช้กฎหมาย เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งด้านการพัฒนาบุคลากรประจำด่านตรวจ จุดตรวจ การแก้ปัญหาจุดเสี่ยง จุดอันตราย และสนับสนุนเครื่องมือในการบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาได้แก่ เครื่องตรวจจับความเร็ว เครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ อุปกรณ์ประจำจุดตรวจ   เป็นต้น

นายอนุชากล่าวต่อว่ามาตรการในการลดอุบัติเหตุในอนาคตทาง ศปถ.จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกรณีเมาสุราขณะขับรถ   ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพทั้งในช่วงเทศกาลและช่วงปกติ โดยให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎจราจรในอัตราโทษขั้นสุงสุด   กรณีผู้กระทำผิดเป็นเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองร่วมรับผิดชอบด้วย รวมทั้งใช้มาตรการคุมประพฤติ เพื่อสร้างจิตสำนึกในการขับขี่ที่ปลอดภัย   สำหรับกรณีเมาแล้วขับ ให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำหน่ายแก่บุคคล สถานที่ และช่วงเวลาที่กำหนด   รวมถึงห้ามวิธีการเร่ขาย รวมถึงจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 นายอนุชา กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรฐานความปลอดภัยของยานพาหนะ   ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ทุกประเภทให้มีความปลอดภัยและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งรณรงค์มิให้ประชาชนใช้รถผิดประเภทในการเดินทาง โดยเฉพาะการจ้างเหมารถบรรทุก รถกระบะซึ่งไม่ได้จดทะเบียนเพื่อบรรทุกผู้โดยสาร 

นอกจากนี้ศปถ. จะพิจารณาหาแนวทางส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน หมู่บ้าน เข้ามามีบทบาทในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชนมากขึ้น ทั้งการแก้ไขจุดเสี่ยงอันตราย และควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงของกลุ่มเสี่ยงในชุมชน โดยใช้มาตรการทางสังคม รวมถึงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กรมการขนส่งทางบก   เสริมสร้างความรู้และทักษะการขับขี่ปลอดภัย แก่เด็กและเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา   เพื่อประกอบการออกใบอนุญาตขับขี่และลดอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ที่เกิดกับเด็กและเยาวชน 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์