จ่อแจ้งดีเอสไออีก สอบพระปราโมทย์

อดีตประธานกรรมการสวนสันติธรรมยันมีชื่อในบัญชีบริจาคจริง

แต่ไม่เคยรับรู้การเบิกจ่ายว่านำไปใช้ อะไร สาเหตุที่ลาออกเพราะหมดศรัทธา เทศน์บิดเบือน เช่นเดียวกับประธานมูลนิธิบ้านอารีย์ ย้ำมีกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา 21 คน เตรียมยื่นดีเอสไอให้ตรวจสอบพระชื่อดังรายนี้อีก ด้าน "ฐิตินาถ" อดีตลูกศิษย์แฉอีกระลอกบริจาคทั้งเงินและเดินสายไฟเข้าสวนสันติธรรมแต่กลับถูกโอนไปเป็นชื่อของอดีตเมียพระโต้กลับกันไปมารายวันเป็นหนังเรื่องยาวไม่รู้จบกรณีข้อกล่าวหาพระปราโมทย์ ปาโมชโช เจ้าสำนักสงฆ์สวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ถูกกลุ่มอดีตลูกศิษย์ร้องเรียนเรื่องโอนเงินบริจาค 100 ล้านบาทเข้าบัญชีของนางอรนุช สันตยากร อดีตเมียที่มาบวชชีอยู่ที่เดียวกัน และเรื่องคำสอนที่อวดอุตริเกินจริงนั้น

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ก.ย. นายอภิชาติ อัศวเรืองชัย นักธุรกิจส่งออกและเจ้าของโรงงานผลิตเคมีภัณฑ์

ในฐานะอดีตประธานกรรมการสวนสันติธรรมและเป็นบุคคลที่ทนายของสวนสันติธรรมแถลงว่าเป็น 1 ใน 3 คน ที่มีชื่อในบัญชีเงินบริจาคได้ชี้แจงทางโทรศัพท์ว่าสวนสันติธรรมได้นำชื่อของตนไปใส่ในบัญชีเพียง 3 บัญชีเท่านั้น และใน 3 บัญชีนี้ตนเห็นเพียงสำเนาเวลาเบิกจ่ายเงินไปแล้วเท่านั้น ไม่เคยมีส่วนร่วมในการเบิกจ่ายหรือตัดสินใจใดๆ

นายอภิชาติกล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องตัดสินใจลาออกจากการเป็นประธานกรรมการสวนสันติธรรมเพราะหมดศรัทธา

ยอมรับว่าก่อนหน้านั้นเป็นศิษย์ที่ศรัทธาพระปราโมทย์มากถึงกับรวบรวมเงินทองร่วมกับนางสุวรรณี เต็งสุวรรณ พี่สาวภรรยา มาซื้อที่ดิน 60 ไร่ ที่ติดกับสวนสันติธรรมเนื่องจากพระปราโมทย์พูดว่าหากมีคนอื่นมาซื้อที่ดินแปลงนี้อาจจะรบกวนต่อการบำเพ็ญธรรมของสวนสันติธรรมเลยซื้อไว้ แต่ตอนนี้กำลังขายที่แปลงนี้

"ช่วงระยะหลังพระปราโมทย์เทศนาอาจจะมีการพูดบิดเบือนคำพูดหลายๆอย่างเลยลาออก ส่วนเรื่องการขออนุญาตเป็นวัด ก่อนหน้านั้นเคยถามท่านว่าทำไมไม่รีบยื่นขออนุญาตทั้งที่สร้างมาหลายปีแล้ว แต่ท่านไม่แจ้งเหตุผลเพียงแต่บอกว่ามันยุ่งยาก คณะกรรมการทุกคนมีหน้าที่ช่วยท่านทำงาน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของท่าน สำหรับกุฏิของท่านนั้นเคยเข้าไปไม่เกิน 7 ครั้งถือเป็นโซนที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้า  กรรมการอาจจะเข้าได้ในช่วงที่มีการภาวนาแต่เพียงแป๊บเดียว กุฏิของท่านอยู่ใกล้กับแม่ชีอรนุชจริง ก่อนหน้าเคยมีแม่ชีอีกคนอยู่รวมกับแม่ชีอรนุชแต่ตอนหลังแม่ชีลาออกไป เลยเหลือแต่แม่ชีอรนุช" นายอภิชาติกล่าว

อดีตประธานกรรมการสวนสันติธรรมกล่าวต่อว่า ตนเข้ามาอยู่สวนสันติธรรมเน้นการภาวนาเป็นหลัก

แต่มาตอนหลังรู้สึกว่าการภาวนานั้นผิดทางแนวการสอนของพระปราโมทย์ว่าเป็นการปิด-เปิดภูตกับอารยะ ทำให้รู้สึกว่าไม่น่าจะบริสุทธิ์เลยลาออก และที่มีคนจำนวนมากที่ศรัทธา และปิดรับข้อมูลบางอย่างไม่เปิดใจเชื่อในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง จึงอยากจะแนะนำให้รับฟังจากพระที่ปฏิบัติจริงๆ แล้วลองเอามาทำปฏิบัติตามกันใหม่ ความจริงก็คือความจริงต้องมีการพิสูจน์แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะใช่


ส่วนนายวีรณัฐ โรจนประภา ประธานมูลนิธิบ้านอารีย์  กล่าวว่า  ตนในฐานะประธานมูลนิธิบ้านอารีย์

ได้ติดตามพฤติกรรมของพระปราโมทย์และเคยเผยแพร่ คำสอนพระปราโมทย์มาระยะหนึ่งเห็นว่ามีพฤติกรรมอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาใช้คำสอนที่อวดอุตริ และคำสอนที่ผิดพลาดมากมาย ขณะนี้มีกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนาจำนวนมากเตรียมยื่นเรื่องต่อดีเอสไอให้ตรวจสอบพระปราโมทย์อย่างน้อย 21 คน

ด้าน น.ส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง อดีตศิษย์ผู้ใกล้ชิดพระปราโมทย์ เปิดเผยว่า ตนก็เหมือนคนทั่วไปที่มักเข้าวัดปฏิบัติธรรม

แต่เห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่างจนต้องยุติเป็นลูกศิษย์ และถอยออกมาอย่างเงียบๆ ตอนแรกๆไม่มีใครบริจาคเงินเลย ตนเลยบริจาครวม 4 ล้านบาท และมีลูกศิษย์มาบริจาคอีกจนสร้างสวนสันติธรรมสำเร็จ ส่วนที่พระปราโมทย์อ้างว่าตนขอให้ใส่เป็นชื่อของตัวเองนั้นเป็นความเท็จ เพราะว่าทุกเรื่องพระปราโมทย์ใส่ชื่ออดีตภรรยาทั้งหมด แม้กระทั่งหม้อแปลงไฟกับการเดินสายไฟเข้าวัดซึ่งตนและลูกศิษย์ที่มีที่ดินอยู่ร่วมกันดำเนินการและใช้เงินไปประมาณ 1 ล้านกว่าบาท พระปราโมทย์ยังบอกให้ใส่ชื่อภรรยาท่านคนเดียว วันดีคืนดีท่านมาบอกว่าเป็นชื่อของวัด ตนไม่มีสิทธิ์ใช้ไฟฟ้า และได้ตัดไฟบ้านตน ทั้งๆที่หุ้นกันเดินไฟฟ้าเอง ทุกอย่างมีหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งพยานแวดล้อมด้วย

น.ส.ฐิตินาถกล่าวอีกว่า ท่านเคยบอกว่ามีความจำ ไปได้ไกลถึง 31 ชาติที่แล้ว

แต่ทำไมเรื่องในชาติปัจจุบันท่านลืมหมดเลย ลืมเช็คกว่า 1 ล้านบาทที่บริจาคนั้นเพื่อ สร้างวัด ท่านเคยเขียนในหนังสือกว่าจะเป็นสวนสันติธรรม มีเขียนระบุว่า ตนบริจาค 2 ล้าน มารดาตน 1 ล้าน แล้ว 1 ล้านที่ให้ไว้ตอนแรกที่ก่อนสร้างวัดนั้นหายไปไหน แต่ กลับมีชื่อนางอรนุชบริจาค 1 ล้านบาทแทน แถมมีการปล่อย ข่าวว่าตนใช้ชื่อพระปราโมทย์รับบริจาคเงินเพื่อตัวเอง ที่สำคัญพระปราโมทย์ชอบพูดกำกวมเพื่อให้คนเข้าใจผิด

อดีตลูกศิษย์ใกล้ชิดกล่าวต่อไปว่า พระปราโมทย์ เคยพูดกับตนว่า เป็นพระอรหันต์บรรลุในวันที่ 6 มี.ค.2548

และเคยเขียนหนังสือด้วยลายมือของพระปราโมทย์ให้กับตนว่า ตนเป็นลูกของท่านเมื่อ 31 กัลป์ที่แล้ว "การฟ้องร้อง พระปราโมทย์เพียงต้องการความเป็นธรรมว่า ท่านพูด เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับเรา ทั้งที่เราเป็นคนให้ทุกเรื่อง เงินก็ เงินเรา แต่กลับมาหาว่าเราเอาไป ที่ดินก็เป็นของเรา แต่ มาบอกว่าเราเอาของท่านไป เพราะฉะนั้นจะได้พิสูจน์กันไปเลยว่าอะไรคือความจริง" น.ส.ฐิตินาถกล่าว

ด้านพระเทพสุทธาจารย์  เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ฝ่ายธรรมยุต กล่าวว่า กรณีของพระปราโมทย์ยังไม่ถือว่าเป็นพระที่อยู่ในการปกครองของเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เพราะสวนสันติธรรมยังไม่ใช่วัด 

แต่กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการสร้างวัดอยู่ ยอมรับว่าในช่วงที่พระปราโมทย์ มาที่ อ.ศรีราชา ได้เข้ามาฝากเนื้อฝากตัว และเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา พระปราโมทย์ได้แจ้งว่าจะขออนุญาต สร้างวัดและได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว ส่วนกรณีที่มีการ กล่าวหากันว่ามีการสร้างกุฏิของแม่ชี  ซึ่งเป็นอดีตภรรยาอยู่ใกล้กับกุฏิของพระปราโมทย์ และอยู่ในที่ลับตาคนนั้น ไม่ขอตอบเพราะยังไม่เคยเข้าไปในสวนสันติธรรมเลยไม่ สามารถตอบได้


ขณะที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า

ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ประสานไปยังเจ้าคณะจังหวัดชลบุรีและพระปราโมทย์เพื่อ ขอทราบข้อเท็จจริงเรื่องที่ถูกกล่าวหาแล้ว และจะรายงานกลับมาที่สำนักงานพระพุทธฯภายในวันที่ 20 ก.ย.นี้ แต่ เท่าที่ทราบพระปราโมทย์ยินดีให้ข้อมูลในทุกเรื่อง และคงไม่มีนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมมหาเถรสมาคม  (มส.)  ที่จะมีขึ้นในวันที่  20  ก.ย.  ที่พุทธมณฑล เพราะเรื่องที่จะเสนอเข้าในที่ประชุมมหาเถรฯนั้น ต้องเป็นเรื่องที่มหาเถรฯมีมติให้ดำเนินการ หรือเป็นเรื่องที่มหาเถรฯเห็นว่ามีการดำเนินงานที่ล่าช้า

เมื่อถามว่าสำนักงานพระพุทธฯจะเข้าไปตรวจสอบ ภายในสวนสันติธรรมได้หรือไม่  นายนพรัตน์กล่าวว่า

สำนักงานพระพุทธฯไม่มีอำนาจถึงขนาดนั้น แต่จะคอยประสานในการให้ข้อมูลกับหน่วยงานที่มีหน้าที่และมีอำนาจ ตามกฎหมายที่จะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มีกลุ่มอดีตลูกศิษย์พระปราโมทย์ไปร้องเรียน ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่มาขอข้อมูลที่สำนักงานพระพุทธฯ หรือพระผู้ปกครองพระปราโมทย์ โดยตรงคือพระอุปัชฌาย์ของพระปราโมทย์ หรือเจ้าอาวาสวัดที่พระปราโมทย์สังกัดอยู่อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบภายในสวนสันติธรรมได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์