จี้สธ.ถอนโฆษณายืดอกพกถุงยั่วยุคนมีเซ็กส์เพิ่ม

สปท.ยื่นหนังสือเรียกร้องสธ.ถอนโฆษณา'ยืดอกพกถุง'ติงเนื้อหาน่าเกลียด ยั่วยุให้ประชาชนหมกหมุ่น-อยากมีเพศสัมพันธ์เพิ่ม


เมื่อวันที่ 13 กันยายน นายสนธิญา สวัสดี ประธานสมาพันธ์ประชาชนตรวจสอบรัฐไทย (สปท.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้ยกเลิกการโฆษณาสปอตเกี่ยวกับการพกถุงยางอนามัย (ยืดอกพกถุง) ทางสถานีโทรทัศน์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการยั่วยุให้คนอยากมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งมีตัวแทน นพ.มงคลรับเรื่องไว้แทนนายสนธิญาให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นหลักที่ต้องการเรียกร้องคือ ให้ สธ.ยกเลิกการโฆษณาโครงการยืดอกพกถุงในโทรทัศน์ทั้งหมด แต่หากไม่สามารถยกเลิกได้เพราะติดปัญหาสัญญาต่างๆ กับสถานีโทรทัศน์ ก็ให้เลื่อนระยะเวลาการโฆษณาออกไปเป็นหลังเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี นอนหลับหมดแล้ว

ทั้งนี้ หากภายใน 2 สัปดาห์ สธ.ยังไม่ดำเนินการแก้ไขจะพิจารณาฟ้องศาลปกครองต่อไป
 

'เนื้อหาโฆษณาของ สธ.น่าเกลียดมาก เป็นการยั่วยุให้คนอยากมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น ดูได้จากใช้ชายหญิงคู่หนึ่ง ที่จ้องหน้ากัน และฝ่ายชายตะโกนว่าอยาก แล้วไปซื้อถุงยางอนามัยมาใช้ มันสื่อให้เห็นว่าพวกเขาอยากจะมีเพศสัมพันธ์กัน ผมมีลูกสาวอายุ 13 ปี พอเขาเห็นโฆษณาชุดนี้ ก็มาถามผมว่าอยากอะไร ทำให้ผมที่เป็นผู้ปกครองไม่สามารถตอบได้ กระอักกระอ่วนใจที่จะตอบ ซึ่งเชื่อว่าผู้ปกครองหลายคนก็เจอปัญหาเดียวกันกับผม หาก สธ.ต้องการรณรงค์เรื่องการป้องกันโรคเอดส์ กับการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ก็ควรจะรณรงค์สร้างจิตสำนึก หรือวัฒนธรรมไทยแทนจะดีกว่า' นายสนธิญากล่าว


ด้าน นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า


หลังจากที่ สธ.ออกแคมเปญ 'ยืดอกพกถุง' เผยแพร่ตามสื่อสาธารณะต่างๆ ทำให้มีเสียงตอบรับทั้งในเชิงบวกและลบ แต่ผลตอบรับในเชิงบวกมากกว่า เพราะสังคมมีความเข้าใจ และยอมรับความเป็นจริงของปัญหาการระบาดของโรคเอดส์ หรือการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนมากขึ้น แต่จะมีการเปลี่ยนการออกอากาศของโฆษณาหรือไม่ คงต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาจะไม่ตรงกับความต้องการในสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นรับทราบ เปรียบได้กับการชกมวยที่ไม่เข้าเป้า

'แม้จะมีบางกลุ่มมองว่า แคมเปญ ยืดอกพกถุง เป็นการโฆษณาที่ชี้โพรงให้กระรอก แต่ข้อเท็จจริงแล้วอยากให้มองถึงเรื่องของประโยชน์ที่สังคมจะได้รับมากกว่าการที่จะมัวอาย และไม่ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เหมือนกับการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนที่ถูกต่อต้านในอดีต ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า กลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น การใช้ถุงยางอนามัย นอกจากเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากโรคติดต่อเพศสัมพันธ์แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรด้วย แต่จะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าเรื่องดังกล่าวมากขึ้น' นพ.สมชัย กล่าวว่า


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์