จิตใจทำด้วยอะไร! เจ้าของสุนัขยืนถ่ายคลิป สุนัขตัวเองกัดลูกแมว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว นายขรรค์ชัย ช่วงชัย ปศุสัตว์ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.กุตาไก้ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัข พร้อมมอบหลักฐาน เป็นคลิปวีดีโอที่บันทึกภาพเคลื่อนไหวของพฤติการณ์ดังกล่าว หลังรับแจ้งเหตุพนักงานสอบสวน ได้รับคำร้องทุกข์เป็นคดีอาญาไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ซึ่งทางตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสเจ้าของสุนัข จนกระทั่งทราบตัว จึงได้เชิญตัวมาสอบถามถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหญิงสาวเจ้าของสุนัขรับว่าเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุและเป็นผู้ถ่ายคลิปบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งขณะนั้นไม่สามารถที่จะห้ามปรามสุนัขของตนได้เนื่องจากตนเป็นผู้หญิงไม่มีแรงเพียงพอที่จะเข้าไปหยุดสุนัขของตนไม่ให้กัดแมวได้

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏตามโซเชียลนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านเวลาประมาณ 07.00 น. ได้มีลูกแมวจำนวน 1 ตัว แอบเข้ามากินอาหารสุนัขภายในบ้านของผู้ต้องหาซึ่งเลี้ยงไว้ในบ้าน สุนัขตัวดังกล่าวจึงไล่กัดลูกแมว ซึ่งผู้ต้องหานั้นไม่ยอมห้ามปรามหรือไล่สุนัข แต่กลับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิบวีดีโอ อยู่ที่หน้าประตูทางเข้าห้องที่สุนัขกำลังไล่กัดลูกแมว พร้อมทั้งยืนดันประตูมิให้ลูกแมวนั้นออกมาด้านนอกได้ จนสุนัขนั้นกัดลูกแมวได้รับบาดเจ็บและตายอยู่ในที่เกิดเหตุ

ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวนั้นถือเป็นการกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งวันนี้ (12 ม.ค.) พนักงานสอบสวน ได้เรียกหญิงสาวเจ้าของสุนัข มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน "กระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร" ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20 โดยมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม รวมถึงรอผลการตรวจที่เกี่ยวข้องมาประกอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงไว้ในความดูแล ให้หมั่นตรวจสอบดูแลสัตว์เลี้ยงของอยู่ตลอด โดยหากมีความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดขึ้นเนื่องจากสัตว์เลี้ยง นั้น ย่อมมีความผิดและมีโทษตามกฎหมายทั้งในส่วนของคดีแพ่งและคดีอาญาตามมา