จวกยับสื่อไร้สำนึก สร้างกระแสเมืองปายฉาว

ชาวปายจวกสื่อยับ หลังนำเสนอข่าวโจมตีแหล่งท่องเที่ยว เล่นน้ำคลายร้อนชื่อดัง เกินเหตุส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยว

กรณีสื่อออนไลน์สำนักหนึ่ง เสนอข่าวเชิงลบเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว “ตาลเจ็ดต้น” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเล่นน้ำ และเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลาชื่อดังของ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีการพาดหัว และโปรยข่าวเกี่ยวกับความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของเหล่านักท่องเที่ยวที่ไป เที่ยวชมสร้างความสกปรก และเสื่อมโทรม ให้แก่สถานที่ท่องเที่ยวจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงในโลกโชเชียล และมีการแชร์ต่อ ๆกันไป ส่งผลกระทบให้คนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเฉพาะทางชุมชนบ้านตาลเจ็ด ต้น ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่และได้มีการรวมกลุ่มกิจจกรรมจัดทำซุ้มบริการนักท่อง เที่ยวในช่วงฤดูร้อนเป็นประจำทุกปี

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า บรรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณ“ตาลเจ็ดต้น”

หมู่ 3 ต.เวียงเหนือ อ.ปายจ.แม่ฮ่องสอน ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งเด็ก และผู้ใหญ่จำนวนมาก เดินทางมาเที่ยวเพื่อพักผ่อนคลายร้อน นั่งรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม และเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดในช่วงกลางวันโดยทางชุมชนจะมีซุ้มใบตองขนาดเล็กเป็น หลังๆบริการกลางน้ำ สำหรับให้คนมาเที่ยวได้นั่งเล่น นั่งทานอาหารเครื่องดื่มรวมถึงนั่งดูและให้อาหารปลาเกยตื้นที่อนุรักษ์ไว้

นาย สำเริง ตังกุลา อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านบ้านตาลเจ็ดต้น

เปิดเผยว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นของชุมชนอยู่ในเขตความรับผิดชอบของ อบต.เวียงเหนือ ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำปาย ได้รวมกลุ่มกันจัดทำซุ้มไม้ไผ่และใบตองขนาดเล็กบริการที่พักกลางแม่น้ำปาย บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวและเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลาแห่งนี้ เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.ของทุกปี ติดต่อกันเป็นปีที่ 12 แล้ว มีการบริหารจัดการกันภายในชุมชน มีกฎกฏิกาของหมู่บ้านที่ชัดเจนไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ รายได้ทั้งหมดจะถูกนำเข้ากองทุนของหมู่บ้านเพื่อจัดสรรปันผลต่อไป ซึ่งมีการทำซุ้มบริการกลางน้ำมากกว่า 60 ซุ้ม คิดค่าเช่าซุ้มละ 60 บาทต่อคน/กลุ่ม และมีบริการซุ้มอาหาร-เครื่องดื่ม 10 ซุ้ม ซึ่งถูกตั้งไว้ด้านบนเนินเหนือแม่น้ำ ไม่ได้มีการขายในน้ำเหมือนที่เป็นข่าว และซุ้มบริการอาหาร+เครื่องดื่ม ก็เป็นของชาวบ้านทั้งหมดไม่มีบุคคลภายนอกหรือนายทุนจากต่างถิ่นเข้ามามีส่วน ร่วม รายได้จากการให้เช่าซุ้มนั่งเล่น ซุ้มจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มจะถูกจัดสรรแบ่งเป็นส่วน ๆ นำเข้าชุมชนเข้าวัด ปันผลสมาชิกและนำไว้เป็นค่าสำหรับซื้ออาหารเลี้ยงปลา กระแสข่าวที่ออกมาในทางด้านลบว่า เป็นสถานที่สังสรรค์ดื่มกิน และสกปรกรวม ทั้งเป็นที่แสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มคนบางกลุ่มตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความ จริง

ด้านนายนิรันดร์ ชัยกุลนากยก อบต.เวียงเหนือ กล่าวว่าตนเห็นข่าวที่มีสื่อเสนอออกไปแล้วรู้สึกตกใจ

เนื่องจากข้อมูลที่นำเสนอออกไปเป็นความจริงน้อยมาก แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นของชุมชนจริง โดยชุมชนช่วยกันบริหารจัดการจนมีชื่อสียงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหญ่ ของ อ.ปาย ในช่วงหน้าร้อน ไม่มีกลุ่มบุคคลนอกพื้นที่เข้ามาร่วมด้วย โดยทางอบต.ก็ได้เข้ามาช่วยดูแลและสนับสนุนในเรื่องของรถเก็บขยะ และระบบการรักษาความปลอดภัยส่วนที่มีการเสนอข่าวออกมาในทางด้านลบของสื่อบาง สื่อนั้นตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับชาวบ้าน

ขณะ ที่นายคำรณ ศรีโพธิ์ปลัดอาวุโสรักษาการแทนนายอำเภอปาย

เปิดเผยว่า หลังมีข่าวทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยว ดังกล่าวพบว่าไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องเสียหาย ซึ่งชุมชนมีการบริหารจัดการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเล่นน้ำพักผ่อนเป็น เรื่องปกติมีการจำหน่าย อาหาร+เครื่องดื่ม ตามปกติ เพราะเป็นกิจกรรมของชุมชนที่จัดทำกันทุกปียังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ทุกเพศทุกวัยยังคงมาเที่ยวกันไม่ขาดสายอย่างไรก็ตามทางอำเภอได้ประสานกับทาง ตำรวจให้เข้ามาช่วยชุมชนดูแลแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการเข้า ใจผิดและสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนที่เข้ามาเที่ยวพักผ่อนด้วย.