จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??

จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย  วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??

สถานการณ์นับวันยิ่งสร้างความยากลำบากต่อการเข้าไปตรวจค้นจับกุมยากยิ่งขึ้น แม้ผ่านมาแล้ว12วันดูเหมือนว่าฝ่ายรัฐยังไม่มีช่องทางใดเปิดให้เข้าไปตรวจค้นวัดธรรมกายเพื่อดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโยได้เลย นั่นเพราะติดขัดปัญหาเดียวนั่นคือ มีพระขัดขวางอยู่นั่นเอง วันนี้คอลัมนิสต์ดังเปลว สีเงิน จากนสพ.ไทยโพสต์ ได้แนะวิธีจัดการกับบรรดาพระสงฆ์เหล่านั้นเอาไว้ผ่านบทความอย่างน่าสนใจยิ่ง โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังต่อไปนี้

 

เส้นทาง 'ปราบผีบุญธรรมกาย'

 

กับพวกหัวโล้น "หน้าด้าน-ไร้ยางอาย" ที่เรียก "ทุมมังกุ ผู้-เก้อ-ยาก" นั้นเปรียบก็เหมือน "ก้อนอุจจาระ"การกำจัดนั้น ไม่ยาก.......แต่จะกำจัดแบบไหน วิธีไหน จึงจะไม่เลอะเทอะเปรอะมือ และไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจาย เป็นที่สะอิดสะเอียน ชวนอ้วกแตก ตรงนี้แหละ...สำคัญ! เพราะถ้าไม่รู้วิธี เรื่องกำจัดอุจจาระ ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่หรอก แต่ด้านภาพและกลิ่นมันจะใหญ่ ลอยวน สร้างความคลื่นเหียน น่ารำคาญไม่รู้จบ-รู้สิ้น!

 

อย่างกรณี ใช้ ม.๔๔ ชำระสะสาง "เปรต-มาร" ที่เข้ามาอิงอาศัยวัด ในคราบพระของพระพุทธศาสนาหากินขณะนี้ การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ล้อมอยู่ภายนอกวัดธรรมกาย เล่นเจ้าล่อ-เอาเถิด กับพวกอลัชชี "ผีบุญลัทธิธรรมกาย" ไปวันๆ ระวัง จะเข้าตำรา "ไม้สั้นไปรันขี้"............เลอะมือ แล้วก็เหม็น แถมรันออกไปไม่หมด "อาณาจักรสงฆ์" ด้วย! ถ้าเป็นคนธรรมดา มาตอดหน้า-ตอดหลัง หวังสร้างสถานการณ์เป็นเหตุยืดเยื้อ อย่างเห็นรอบๆ อาณาจักรจานบินเป็นรายวันอยู่ตอนนี้ นั่นไม่ยากที่ตำรวจ-ดีเอสไอจะรับมือ แค่สะบัดแข้ง-สะบัดขาตามหน้าที่ ที-สองที ก็เรียบร้อย แต่นี่ มาในเครื่องแบบธงชัยพระพุทธศาสนา คือโกนหัวโล้น-ห่มเหลือง เป็นพระจริง-พระปลอม มั่วไปหมด แต่คนทั่วไป เห็นเหลืองๆ หัวโล้นๆ ก็ตีราคา "เหมาเข่ง" เป็นพระไปหมด

 

นั่นจึงยากที่จะใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด-เข้มงวด-จริงจัง เหมือนการจับโจรผู้ร้ายทั่วไป เมื่อตำรวจ-ดีเอสไอ ต้องทำหน้าที่แบบไม่สามารถกระชับให้เต็มกำมือได้ ด้วยเห็นแก่ผ้าเหลือง จึงเป็น "จุดหลวม" ให้พวกผีบุญธรรมกายเคลื่อนไหว-ปลุกระดมไปได้เรื่อยๆ แถมสร้างสตอรี "ม.๔๔ รังแกพระ" ใช้ระบบสื่อสารไอทีแทนนกพิราบ ส่งข่าวกระจายออกไปตลบตะแลง ขอความช่วยเหลือจากแนวร่วมภายนอก

 

ยูอง-ยูเอ็น ก็ไม่เว้น ใช้มารยาสาไถยผีบุญไปฟ้องดะ! กับคนรู้-คนเข้าใจ ก็ไม่เป็นไร .........ก็อ๋อ..."เล่ห์ธรรมกาย-ธรรมโกง" สนิทวงศ์มันร้ายกาจ แต่กับคนในสังคมโลกทั่วไป ที่ไม่มีความรู้-ความเข้าใจ ว่าธัมมชโยเจ้าลัทธิผีบุญกับสาวก คือซาตานซุกวัด-ซุกผ้าเหลืองหากิน ที่ต้องกำจัด ก็จะทึกทักผ่านภาพ-ผ่านข่าวลวงเป็นว่า..........เจ้าหน้าที่บ้านเมือง กำลังกำราบปราบปราม "หัวโล้น-ห่มเหลือง" ซึ่งเขาเข้าใจว่า...คือพระ ความจริงไม่ใช่พระ เป็นซาตานคลุมเหลือง ในลัทธิผีบุญธรรมกาย ผนึกการเมือง สร้างอาณาจักรเป็น "รัฐซ้อนรัฐ"! นี่...มันง่ายในยาก และยากในง่าย อยู่ในลักษณะนี้ ถ้าตำรวจ-ดีเอสไอ จะเล่นบทแมวเฝ้ารูหนูอยู่อย่างนี้ โดยไม่ศึกษาธรรมชาติความเป็นอยู่ของหนู ผมเกรงว่า.......แมวจะหลับคาปากรู ปล่อยให้หนูคลานออกมาขลิบหนวดให้ได้อาย แถมชาวบ้าน-ชาวเมืองจะพากันขำตายเท่านั้นแหละ!

 

ฉะนั้น ควรเข้าใจว่า ในภาพรวม "ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย" แต่ในคำว่า "ทุกคน".........ยังต้องจำแนกหมวดหมู่ไปตามสถานภาพสังคม และนั่น นอกจาก "กฎหมาย" ที่ต้องยึดในภาพรวมแล้ว แต่ละคน ยังต้องถูกร้อยรัดอยู่ภายใต้ "กฎ-ระเบียบ" ที่เรียกว่า "วินัยองค์กร" ที่แต่ละคนสังกัดอีกด้วย นั่นคือ ไม่ว่าพระ-ว่าโจร นอกจากอยู่ภายใต้กฎหมายแล้ว ในความเป็นพระ-เป็นวัดในพระพุทธศาสนา ต้องถูกควบคุม-ร้อยรัดด้วย

 

๑.พระธรรมวินัย

๒.พ.ร.บ.คณะสงฆ์

๓.คณะกรรมการมหาเถรสมาคม และ

๔."กฎมหาคณิสสร" โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม เพื่อกำหนดนโยบายหรือวิธีลงโทษทางการปกครอง

สำหรับพระภิกษุและสามเณร ที่ประพฤติให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนาและการปกครองของคณะสงฆ์ จะเห็นว่า ตอนนี้ เราใช้แต่กฎหมายบ้านเมือง ที่เจตนารมณ์มีเพื่อใช้บังคับกับโจรผู้ร้าย ในความหมายอาชญากร-อาชญากรรม มิได้มุ่งใช้กับพระสงฆ์ ที่ให้ค่าเป็นผู้ทรงศีล มีหิริ-โอตตัปปะ ประจำใจโดยตรงหิริ คือความละอายใจตัวเอง ต่อการประพฤติทุจริตชั่วร้าย

โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อผลของการประพฤติทุจริตชั่วร้าย

หิริ-โอตตัปปะ คือ "ธรรมคุ้มครองโลก" มนุษย์ทุกคน ไม่เฉพาะพระ ถ้ามีหิริ-โอตตัปปะ กฎหมายไม่จำเป็นเลย

แต่ทีนี้ไม่งั้น คนทั่วไป ไม่มีหิริ-โอตตัปปะ ก็พอเข้าใจได้ แต่กับ "มนุษย์พระ" เมื่อไม่มีหิริ-โอตตัปปะ มันก็ยากแล้ว ที่ "สังคมนี้" จะอยู่ด้วยศานติธรรม อันประเทศพุทธควรจะเป็น! เราอย่าปล่อยให้อลัชชีในคราบ "ผีบุญธรรมกาย" ใช้อามิสปัจจัย คือเงินทองซื้อพระ-ซื้อวัดไปอยู่ในอาณัติลัทธิอย่างนั้นง่ายๆ เลย

 

ถ้าทอดธุระ-ถอนอาลัย ปล่อยกันไป............ความเป็น "ราชอาณาจักรไทย" อันใครจะแบ่งแยกมิได้ ก็ยากจะแน่ใจว่าดำรงคงอยู่อย่างนั้นได้ "การเมืองผนึกผีบุญธรรมกาย" จะเป็นขุมกำลังใหญ่ ก่อตัวและทดสอบความเป็น "รัฐซ้อนรัฐ" ได้สำเร็จ มีความเป็นได้อยู่! ดังนั้น ผมจึงเห็นว่า การใช้กำลังตำรวจ-ดีเอสไอภายใต้กฎหมายบ้านเมืองเข้าจัดการ "ธัมมชโย-ลัทธิธรรมกาย" นั่นยังเป็น "ทางเฉียงๆ" อยู่ อยากให้ใช้ "ทางตรง" เข้าผสมด้วย จะช่วยให้ทุกอย่างรวบรัดยิ่งขึ้น มีข้ออ้างอิงในการทำ "ทุกขั้นตอน" ถึงใครแย้ง แต่ไม่มีเหตุผลรับฟัง

 

เรื่องธัมมชโย เป็นผู้ต้องหา แต่หลบหนีการจับกุม และเรื่อง "วัด-พระ" ทั้งพระวัดพระธรรมกายและวัดอื่นๆ ที่มาซ่องสุม-ชุมนุม ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าไปตรวจค้นภายในวัด เหล่านี้ นอกจากเข้าข่ายผิดกฎหมายบ้านเมือง ในความเป็นสงฆ์ ถือว่าทำผิดพระธรรมวินัย และผิดกฎมหาคณิสสร ดังนั้น ควรนำเรื่องนี้ เสนอเข้าสู่วาระการประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นกรณีพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขึ้นกับนายกฯ ประยุทธ์โดยตรง ขณะนี้ มี "พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์" เป็น ผอ.สำนักพุทธ แทนนายพนม ศรศิลป์แล้ว ตามกฎหมาย ผอ.สำนักพุทธ เป็นทั้งเลขาธิการมหาเถรสมาคม และทั้งเลขาธิการคณะกรรมการมหาคณิสสร หรือผู้ทำหน้าที่คุมกฎศาลสงฆ์ ควรที่จะนำเรื่องเข้าวาระประชุม เพื่อให้ มส.มีมติทางใด-ทางหนึ่ง เป็นแนวทางปฏิบัติต่อพระและวัดอันมีพฤติกรรมนอกพระธรรมวินัยดังปรากฏ เมื่อ มส.มีมติ เป็นหลักเกณฑ์ พระและวัด ต้องเข้าสู่การไต่สวนกระบวนความตามกฎมหาคณิสสรแล้ว

 

ถ้าวัด-พระรูปใดขัดขืน...........ทีนี้แหละ เป็นความชอบทั้งกฎธรรม ชอบทั้งกฎหมาย ในเมื่ออ้างเป็นพระ แต่ไม่ยอมรับกฎหมายพระ มันก็ต้องใช้ "กฎหมายชาวบ้าน" กันเต็มภิกขาละทีนี้ จับถอดผ้าเหลือง ลากคอมันเข้าตะรางทั้งหัวโล้นๆ ได้เลย รู้จักอำนาจ-หน้าที่มหาคณิสสรกันไว้หน่อยก็ดี จะยกมาให้ดูพอเป็นสังเขป ซัก ๒-๓ มาตรา

 

มาตรา ๒๖ ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ "มหาเถรคณิสสร" มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

๑.ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม

๒.ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร

๓.ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์

๔.รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา

๕.วินิจฉัยอุทธรณ์ของพระภิกษุผู้ต้องคำวินิจฉัยให้รับนิคหกรรมถึงขั้นให้สละสมณเพศ วางหลักเกณฑ์ในการดูแลและจัดการศาสนสมบัติกลาง

๖.กำหนดกิจการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

๗.ให้คำแนะนำในการแต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

๘.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น เพื่อการนี้ ให้มหาคณิสสรมีอำนาจออกข้อบังคับ วางระเบียบ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม หรือออกคำสั่ง มีมติ ออกประกาศ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายและพระธรรมวินัย ใช้บังคับได้ และจะมอบให้ภิกษุรูปใด หรือคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ ตามมาตรา ๓๐ เป็นผู้ใช้อำนาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่งก็ได้ เพื่อรักษาหลักพระธรรมวินัยและเพื่อความเรียบร้อยดีงามของคณะสงฆ์ มหาคณิสสรจะตรากฎมหาคณิสสร โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม

 

เพื่อกำหนดนโยบายหรือวิธีลงโทษทางการปกครอง สำหรับพระภิกษุและสามเณรที่ประพฤติให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนาและการปกครองของคณะสงฆ์ก็ได้ พระภิกษุสามเณรที่ได้รับโทษตามวรรคหนึ่ง ถึงขั้นให้สละสมณเพศ ต้องสึกภายใน ๓ วัน นับแต่วันทราบคำสั่งลงโทษ มาตรา ๓๙ พระภิกษุรูปใดล่วงละเมิดพระธรรมวินัย และได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดให้ได้รับนิคหกรรมให้สึก ต้องสึกภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้น

 

มาตรา ๔๐ เมื่อพระภิกษุรูปใดต้องด้วยกรณีข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

๑.ต้องคำวินิจฉัยตามมาตรา ๓๘ ให้รับนิคหกรรมไม่ถึงให้สึก แต่ไม่ยอมรับนิคหกรรมนั้น

๒.ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ

๓.ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง

๔.ไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

๕.ให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎมหาคณิสสร พระภิกษุผู้ต้องคำวินิจฉัยให้สละสมณเพศตามวรรคสอง ต้องสึกภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำวินิจฉัยนั้น คำวินิจฉัยของมหาคณิสสรเป็นอันถึงที่สุด

ครับ....ก็พอเป็นตัวอย่าง เปิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๔๔ ดูได้

 

ถ้ารัฐบาลใช้มติรัฐบาลสงฆ์ คือมติมหาเถรสมาคม เป็นธงนำ ตามด้วยการใช้กฎหมายบ้านเมือง กระหนาบ "ธัมมชโย-ธรรมกาย" ควบคู่ไปด้วย ทุกอย่างจะเข้าทางตรง ทั้งพระ-ทั้งผี จะไร้ข้อโต้แย้ง

และนั่น "ช้า-เร็ว" ยังไง ความมั่นใจว่า "จบ" ต้องมี...มีชนิด

 

"ไร้เงื่อนไขโต้แย้ง" ด้วยประการทั้งปวง

 

 

 

 

 

 

 


จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย  วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??


จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย  วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??


จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย  วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??


จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย  วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??


จบแน่ทั้งพระทั้งผี!!!“ป๋าเปลว”ชี้ช่องปราบผีบุญธรรมกาย  วัด-พระใดฝืนจับสึกยัดคุกได้เลย??

ข้อมูล สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์(http://www.thaipost.net/)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์