ค้านรถร่วม ขสมก. ขอขึ้นค่าโดยสาร หวั่นซ้ำเติมคนรายได้น้อย

ค้านรถร่วม ขสมก. ขอขึ้นค่าโดยสาร หวั่นซ้ำเติมคนรายได้น้อย

นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าววานนี้ (23 ก.ย.) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้รถโดยสาร ขสมก. หรือรถร่วม ขสมก. ทั้งปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ (รถร้อน) ปรับขึ้นค่าโดยสาร แม้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้ยินกระแสข่าวที่กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. จะไปยื่นหนังสือให้ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วันที่ 26 กันยายนนี้ ที่กระทรวงคมนาคม เพื่อขอปรับราคาค่ารถโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 50 สตางค์ และรถปรับอากาศจะขอปรับเพิ่มขึ้นระยะละ 1 บาท สำหรับรถร้อน (ขาว-น้ำเงิน) จาก 8 บาท เป็น 8.50 บาท และรถปรับอากาศราคาเริ่มต้นต่ำสุด 11 บาท เป็น 12 บาท โดยการขอปรับราคาขณะนี้ควรต้องพิจารณามาก เพราะราคาน้ำมันยังไม่นิ่ง ต้องประเมินทิศทางก่อน  ผอ.ขสมก. กล่าวต่อว่า แม้ผู้ประกอบการรถร่วมจะแบกรับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายมาก แต่ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศไม่ค่อยดีนัก และประชาชนที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย หากปรับขึ้นราคาอีกก็จะเป็นการซ้ำเติม แต่ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางด้วยว่าจะพิจารณาอย่างไร หรือหากไม่ปรับขึ้น ก็ต้องพิจารณาว่ามีแนวทางอื่นช่วยเหลือผู้ประกอบการหรือไม่ เช่น การลดค่าธรรมเนียมหรือค่าขาในการวิ่งรถแต่ละเที่ยว  สำหรับรถโดยสาร ขสมก. (ครีม-แดง) และรถปรับอากาศ (สีน้ำเงิน) ยืนยันแน่นอนว่ายังไม่มีขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร   ด้านนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม และอดีตประธานคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ประกอบการทั้งรถร่วม ขสมก. และรถโดยสารร่วมบริการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มายื่นหนังสือขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารแล้วจะได้อนุมัติให้ปรับขึ้นทันที เนื่องจากต้องใช้เกณฑ์ที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางได้อนุมัติปรับราคาครั้งล่าสุดมาเป็นเกณฑ์ และการอนุมัติครั้งใหม่ ราคาน้ำมันห่างกันถึง 3 บาทต่อลิตรหรือไม่ หากถึงตามหลักก็ปรับให้ 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร สำหรับรถร่วม บขส.   รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการปรับค่าโดยสารนั้น สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาด ว่าขึ้น-ลง หรือทรงตัว และมีทิศทางปรับสูงขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ หากยังมีความผันผวน ก็ต้องรอประเมินสถานการณ์ก่อนระยะ 1-2 เดือน แล้วค่อยมาพิจารณาอีกครั้ง หากทิศทางราคาน้ำมันปรับลง ค่าโดยสารก็ไม่ต้องปรับขึ้น ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง ก็ต้องปรับค่าโดยสาร แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล และต้องดูผลการพิจารณาของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ที่มีนายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานก่อน ขณะที่นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่ผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. จะยื่นหนังสือเพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่นโยบายของกระทรวงคมนาคมเห็นว่า การจะปรับหรือไม่ปรับ จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง หากไม่ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องหารือกันว่า จะช่วยเหลือผู้ประกอบการในวิธีทางอื่นได้อย่างไรบ้าง

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์