คุยการเมือง : ไม่รู้เราสู้เพื่อใคร


ตอนแรกนึกว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีการซื้อที่ดินรัชดาฯ โดยลงโทษจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเวลา 2 ปีแล้ว อะไรต่าง ๆ ก็จะดีขึ้นเอง

อย่างน้อยก็เป็นการลดความปรารถนาที่จะกลับคืนสู่อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้ง อันนำไปสู่การวางมือไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างแท้จริง

แต่เมื่อถึงเวลา สถานการณ์กลับไม่ได้เป็นเช่นที่คาดเดาไว้ ในทางตรงกันข้าม บรรยากาศยิ่งดูสับสนวุ่นวาย ส่อเค้าเกิดความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกในอีกไม่ช้า

เนื่องจากผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อ้างว่า เมื่อตำรวจไม่กล้าดำเนินการตามกฎหมายเพราะกลัวถูกกล่าวหาว่ารังแกประชาชน จึงต้องใช้ประชาชนปราบปรามประชาชนให้เบ็ดเสร็จราบคาบ

ถ้าเหตุการณ์เป็นไปเช่นนั้นจริง ก็แสดงว่าประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ภาวะอนาธิปไตย กลายเป็นสงครามกลางเมืองไปเรียบร้อยแล้ว เราอาจได้เห็นภาพ ประเทศไทยแบ่งแยกเป็น 2 แผ่นดิน หรือมีคนไทยอพยพหอบลูกจูงหลานหนีภัยสงคราม

นี่ไม่ได้พูดเล่น ๆ เพราะเมื่อ 30 ปีก่อน หลายประเทศรอบบ้านเราเกิดภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด คนในชาติลุกขึ้นมาฆ่ากัน

ไล่เรียงมาตั้งแต่สงครามกลางเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่ ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า การปกครองในระบอบสาธารณรัฐดีกว่า แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับบอกว่า ระบอบสาธารณะรัฐยังมีระบอบศักดินาแฝงอยู่ นายทุนเพียงหยิบมือเป็นผู้ครอบครองที่ดินทำกินเกือบค่อนประเทศ จำเป็นต้องใช้ระบอบคอมมิวนิสต์มาปกครองเพื่อยึดที่ดินคืนจากนายทุน

ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์

ถัดลงมาเป็นแผ่นดินเวียดนามที่ถูกมหาอำนาจ 2 ขั้วเอามาเป็นสนามประลองกำลังในสงครามเย็น เลยถูกแบ่งเป็นเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ ในขณะที่ผู้นำเช่น โฮจิมินห์ มีเป้าหมายเพียงต้องการปลดแอกจากการครอบงำของมหาอำนาจต่าง ๆ การสู้รบทำให้มีคนตายเป็นแสน ๆ คน แต่ก็คุ้มเพราะท้ายที่สุดเวียดนามสามารถปลดแอกสำเร็จ ไม่ต้องเป็นทาสของประเทศใด

นี่ก็เช่นเดียวกันกัน เป็นการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์

จากนั้นไล่นิ้วเลาะแผนที่วกมาทางประเทศกัมพูชา ประชาชนจับปืนมาฆ่ากันเองจนกลายเป็นตำนาน “ทุ่งสังหาร” หรือ Killing field อันโด่งดัง เพราะส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสงครามเย็น แต่อีกส่วนมาจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจ จนเขมรแดงนำมาเป็นเงื่อนไขปลุกระดมให้คนในชนบทลุกฮือเข้าไปเข่นฆ่าคนในเมืองและยึดทรัพย์สินมาเป็นของรัฐ

แค่ 3 ตัวอย่างที่ยกขึ้นมา เป็นเรื่องการต่อสู้ที่เกิดจากปัญหาสังคมส่วนร่วม การแบ่งปันที่ไม่สมดุล การเอารัดเอาเปรียบทางชนชั้น หรือการเป็นเบี้ยในกระดานให้มหาอำนาจเดินเล่นสนุก ๆ

เมื่อเปรียบเทียบกับการต่อสู้ระหว่าง เสื้อแดง กับ เสื้อเหลือง ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ดูจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เพราะนั่นต่อสู้เพื่อประเทศ เพื่อส่วนรวม เพื่อปรับสมดุลในประเทศ แต่ในประเทศไทยกลับเป็นการต่อสู้ด้วยเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว

เลยไม่รู้จะให้ลูกหลานบันทึกประวัติศาสตร์เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในอนาคตได้อย่างไร.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์