คุณหมอแพนด้า เส้นทางสพ.ญ.ก้อย

ข่าวคราว "แพนด้าน้อย" ทายาท "หลินฮุ่ย" และ "ช่วงช่วง" ทูตสันถวไมตรีจากประเทศจีน ที่ให้คนไทยติดตามอยู่ทุกวันนั้น ได้ข้อมูลมาจากผู้เชี่ยวชาญที่ใกล้ชิด

หนึ่งในนั้นคือ "หมอก้อย" สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล สมาชิกคณะผสมพันธุ์เทียมหมีแพนด้าแห่งสวนสัตว์เชียงใหม่ ปัจจุบันถือเป็นสัตวแพทย์ชั้นแนวหน้าลำดับต้นๆ ของสวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศ

หมอก้อยและทีมงานคลุกคลีศึกษาพฤติกรรมของหลินฮุ่ยและช่วงช่วงมาตลอดเวลา จนรู้จักนิสัยของหมีแพนด้าทั้งสองอย่างถ่องแท้ นำไปสู่การผสมเทียมจนได้ลูกแพนด้าน้อยออกมาสำเร็จ แพนด้าน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นที่ปลาบปลื้มและยินดีของคนไทยอยู่ในขณะนี้

หมอก้อย วัย 32 ปี เล่าว่า อยู่จังหวัดเชียงใหม่มาโดยตลอด สมัยเป็นเด็กนักเรียนศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลจังหวัดเชียงใหม่ ต่อด้วยโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ปีสุดท้ายจึงเลือกสาขาช้างและสัตว์ป่า ซึ่งได้ฝึกงานช้างและสัตว์ป่า

"ที่เลือกเรียนสัตวแพทย์เพราะพื้นเดิมรักสุนัข รักแมว เมื่อได้มาเรียนก็ได้รู้จักและคุ้นเคยกับสัตว์มากขึ้น หลากหลายขึ้น จริงๆ ก็รักทุกอย่าง ตอนแรกฝันอยากจะทำงานอยู่กับช้าง เพราะว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีสิ่งลึกลับเยอะ น่าค้นหา มีความลับที่เกี่ยวกับตัวช้างที่เรายังไม่รู้ทั้งหมดอีกเยอะ ประกอบกับช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง แต่ด้วยจังหวะและโอกาสยังไม่ได้" หมอก้อยกล่าว

หลังจบการศึกษาแล้ว หมอก้อยไปทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชนอยู่ประมาณปีครึ่ง ต่อมาขอเป็นอาสาสมัครที่สวนสัตว์เชียงใหม่

แล้วจึงสมัครเข้าทำงาน ได้เป็นลูกจ้างประจำตำแหน่งสัตวแพทย์ในปี 2547 จนปัจจุบันนี้เป็นสัตวแพทย์ระดับ 5 หมอก้อยเข้ามาคลุกคลีกับแพนด้าเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เมื่อแพนด้าได้มาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ 1 ปี คุณหมอได้รับมอบหมายให้มารับช่วงต่อจากสัตวแพทย์คนเดิมที่เคยอยู่มาก่อน สัตวแพทย์คนนั้นเดินทางไปเรียนรู้และฝึกงานเกี่ยวกับหมีแพนด้าที่ประเทศจีน และถ่ายทอดความรู้ให้ ขณะที่คุณหมอก้อยศึกษาเองเพิ่มเติม สังเกตเอง และอ่านหนังสือ

ต่อมาหมอก้อยมีโอกาสไปเมืองจีน ในครั้งแรกยังไม่ได้ไปฝึกงาน แต่ไปเพื่อนำเสนอผลงานที่เราทำที่เมืองไทย จากที่ต้องไปเมืองจีนปีละ 1 ครั้ง กระทั่งล่าสุดได้ไปฝึกงานเกี่ยวกับหมีแพนด้าแบบจริงๆ จังๆ ก็เมื่อหลินฮุ่ยจะตกลูก ประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้ไปศึกษาและฝึกงานอยู่กับศูนย์หมีแพนด้าที่ประเทศจีน 1 เดือน

เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อแพนด้า หมอก้อยกล่าวว่า พื้นฐานชอบสัตว์ทั่วไปอยู่แล้ว ส่วนแพนด้านั้นขนาดคนทั่วไปยังหลงใหลมายืนมองจนลืมเวลาไปเลยว่ามันนานแค่ไหน ส่วนคุณหมอ เมื่อได้มาทำงานกับแพนด้ารู้สึกถึงความน่ารัก ไม่ว่าเขาไปอยู่ประเทศไหน เขาจะเป็นขวัญใจของประเทศนั้น ทั้งๆ ที่แต่ละประเทศจะมีสัตว์ป่าเป็นของตนเอง แต่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมแพนด้าไปไหนก็จะเป็นขวัญใจของที่นั่นทุกที

"ยิ่งในช่วงนี้ หลังจากหลินฮุ่ยตกลูกออกมาแล้ว พฤติกรรมความรักของหลินฮุ่ยที่มีต่อลูกน้อย ขอเรียกเลยว่า โคตรคุณแม่ หรือ ซูเปอร์มัม โดยซูเปอร์มัมแพนด้าตัวแรกอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เขาต้องเลี้ยงลูกแฝดด้วยตัวเอง จึงได้ฉายาซูเปอร์มัม ส่วนหลินฮุ่ยถึงแม้อาจจะไม่ซูเปอร์เท่าเขา แต่ดูแล้วอยากให้เป็นซูเปอร์มัมเหมือนกัน คือหลิน ฮุ่ยอดทนไม่กินอะไรเลยนาน 7-8 วัน ถ้าไม่เรียกว่า ซูเปอร์มัม ก็ไม่รู้จะให้ตำแหน่งอะไรแล้ว ความรักของหลินฮุ่ยที่มีต่อแพนด้าน้อยช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ทำให้เรามีความสุขไปด้วยกับการได้เห็นหลินฮุ่ยเลี้ยงลูก"

เมื่อถามถึงความเห็นต่อสถานการณ์ช้างในบ้านเราที่มีข่าวพร้อมๆ กับแพนด้า สัตวแพทย์หญิงกล่าวว่า ยังรู้สึกว่าบ้านเราให้ความสำคัญกับช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของเราเองน้อยอยู่ อยากให้ใช้กรณีศึกษาจากแพนด้าที่คนจีนเขาทำให้แพนด้ามาเป็นต้นแบบในเชิงนี้

"ถ้าเราทำให้ช้างในบ้านเราเหมือนที่คนจีนเขาทำให้แพนด้าบ้าง คิดว่าความน่ารักของช้างก็ไม่ได้หนีจากแพนด้าเลย"

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์