ครอบครัวหมอเผ่า ส่งทนนายฟ้อง เปมิกา แล้ว

นายทองหลาง แพงศรีละคร ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก ร.ศ.เพลินจิต ทมทิตชงค์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ มารดาและภรรยาของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต หรือ น.ส.ศิวพร เหลืองเรณูกูล ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยอาศัยความอ่อนแอทางจิตของเจ้าของทรัพย์สิน

พฤติการณ์และเหตุการณ์ที่ น.ส.เปมิกา ทำกับ นพ.ประกิตเผ่า เกิดขึ้นระหว่างเดือน ต.ค.2549 19 ก.พ.2550 โดย น.ส.เปมิกา กับพวกอีก 5 คน ได้สมคบกันใช้อุบายหลอกลวง นพ.ประกิตเผ่า ให้หลงเชื่อว่าพวกตนสามารถนั่งสมาธิจนเข้าฌานชั้นสูงจนสามารถระลึกชาติได้

มีพยานบางอย่างที่ทำให้ครอบครัว ทมทิตชงค์ เชื่อว่า น.ส.เปมิกา กับพวก ใช้สิ่งเสพติดกับ นพ.ประกิตเผ่า จนทำให้หลงเชื่อและมีอาการจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ จนสามารถหลอกลวงทรัพย์สินของนพ.ประกิตเผ่า ไปหลายรายการรวมมูลค่านับสิบล้านบาท

ก่อนหน้าที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตนได้รับอนุญาตจากผู้รักษา นพ.ประกิตเผ่า และทางครอบครัว ทมทิตชงค์ ให้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงจาก นพ.ประกิตเผ่า ถึงสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ จากการพูดคุย นพ.ประกิตเผ่า มีสติสัมปะชัญญะดี

หลังจากเริ่มมีความสนิทสนมกับ น.ส.เปมิกา ได้มีการกล่าวอ้างจน นพ.ประกิตเผ่า หลงเชื่อว่าตนเองเคยเป็นสามีภรรยากับ น.ส.เปมิกา มาแต่ชาติปางก่อนย้อนหลังไป 99 ภพชาติ โดยสิ่งใดที่ไม่เคยทำให้กับ น.ส.เปมิกา ในชาติก่อนหรือเคยรับปากไว้แล้วไม่ได้ทำก็ขอให้มาทำในชาตินี้

น.ส.เปมิกา ยังใช้อุบายล่อลวงให้ นพ.ประกิตเผ่า ซื้อรถเก๋งแคมรี่สีดำ ให้กับ น.ส.เปมิกา ด้วยการอ้างว่าชาติที่แล้วนพ.ประกิตเผ่าเป็นขุนศึกใช้ม้านิลพยัคฆ์ เป็นพาหนะในการรบ ส่วน น.ส.เปมิกา ใช้ม้านิลมังกร

นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายรายการที่ น.ส.เปมิกา ได้ใช้กลอุบายลักษณะเดียวกันหลอกลวงให้ นพ.ประกิตเผ่า ซื้อหรือหามาให้ ซึ่งพฤติการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นการฉ้อโกงทรัพย์สิน จึงต้องเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เปมิกา.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์