คพ.เตือนถ่านไฟฉายจีนแดงอันตรายสารพิษสูง

กรมควบคุมมลพิษเผยหลังทดสอบถ่านไฟฉายนำเข้าจากจีนแดงพบว่าคุณภาพต่ำถึงต่ำมากอายุใช้งานสั้น

ขณะที่มีสารพิษเป็นวัตถุดิบสูงนำแช่น้ำสะอาดแค่ 20 นาที

ปลาหางนกยูงตายเรียบ เตือนผู้ปกครองที่ใช้ถ่านจีนแดง หมดอายุใช้งานแล้วระวังเด้กจับเอามือเข้าปาก อันตรายถึงชีวิต

กระทรวงทรัพยากร 20 มิ.ย ผู้สื่อข่าวรายงาน

จากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ว่า เจ้าหน้าที่คพ.ได้รวบรวมถ่านไฟฉายยี่ห้อต่างๆที่นำเข้ามาจาก ประเทศจีนทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ใช้ มาตรวจสอบวิเคราะห์ปริมาณสารเคมีที่บรรจุอยู่ภายใน เบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดมีมาตรฐานต่ำ ถึงต่ำมาก กล่าวคือ แม้จะมีราคาถูก แต่มีอายุการใช้งานที่สั้นมาก เมื่อเทียบ กับถ่านไฟฉายทั่วไปที่ผลิตขายในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังพบว่า วัสดุที่ห่อหุ้มตัวแท่งถ่าน

หรือระบบป้องกันการรั่วซึมของสารเคมีภายในตัวถ่านบอบบางมาก ทำให้สารเคมีตัวหลักที่บรรจุอยู่ภายใน คือ อะเซนิค ตะกั่ว และสารปรอท รั่วซึมออกมาได้ง่ายมาก

เจ้าหน้าที่ของคพ.เคยเอาถ่านที่หมดอายุ

ที่มีสารเคมีไหลเปื้อนซึมออกมาภายนอก ไปแช่น้ำสะอาด แล้วเอาปลาหางนกยูง ซึ่งเป็นปลาที่มีความอดทนต่อสภาพน้ำเสียค่อนข้างสูงจำนวน 3-5 ตัวใส่ไปในน้ำดังกล่าว ไม่เกิน 20 นาที ปลาหางนกยูงตายทั้งหมด จึงน่าเป็นห่วงว่า บ้านไหนที่พ่อแม่มีลูกเล็กๆ และซื้อถ่านไฟฉายคุณภาพต่ำเหล่านี้มาใช้ เมื่อหมดอายุ และปล่อยทิ้งไว้ เด็กๆอาจจะเอามือไปจับแล้ว เอามือเข้าปาก จะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้รายงานระบุ

เจ้าหน้าที่คพ.ที่ทำรายงานเรื่องนี้ระบุว่า

จะเอากฎหมาย เรื่องขยะอิเล็คทรอนิกส์มาใช้กับกรณีถ่านไฟฉายจากประเทศจีนไม่ได้ เพราะวัตถุดังกล่าวไม่ได้มาในรูปแบบสิ่งของเหลือใช้หรือการบริจาค แต่ถูกนำเข้าในรูปแบบสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วคนที่ทำงานเรื่องนี้ทราบกันดีว่า ถ่านไฟฉายประเภทนี้เป็นเหมือนขยะอิเล็คทรอนิกส์อย่างหนึ่ง เพราะอายุการใช้งานสั้นมาก แม้จะราคาถูกแต่ไม่คุ้มค่ากับความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยจะได้รับ เพราะกำจัดยาก และเป็นอันตรายมาก

นางสุปราณี จงดีไพศาล

ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิภาพสาธารณะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) กล่าวว่า สัปดาห์หน้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพิจารณายุทธศาสตร์การจัดการซาก ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะครอบคลุมตัวสินค้าที่มีปัญหาเรื่อง การกำจัดซากด้วย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ แต่ไม่รวมถ่านไฟฉาย

หากเราช่วยกันใช้มาตรการด้านสังคม

พูดและรณรงค์เรื่องนี้กันมากๆเพื่อให้เกิดความ ตระหนักถึงอันตรายของตัวเองและสิ่งแวดล้อมสำหรับการใช้ถ่านไฟฉายที่ไม่ได้มาตรฐาน ทุกวันนี้มีตัวเลขถ่านไฟฉายใช้แล้ว ที่เราต้องกำจัดทิ้งปีละ 536 ล้านชิ้น หรือก้อน ถือว่าเยอะมากลำพังถ่านไฟฉาย

ที่ได้มาตรฐานมีระบบป้องกันการรั่วซึม

ของสารเคมีอันตรายออกมาภายนอกก็กำจัดลำบากอยู่แล้ว ถ่านไฟฉายด้อยมาตรฐานที่มีสารเคมีรั่วซึมออกมายิ่งกำจัดยากกันไปใหญ่ ปัญหาคือ ผู้บริโภคของเราอาจ จะชอบซื้อของถูก แต่เราก็ต้องทำให้เห็นว่า แม้ราคาถูก แต่ไม่คุ้มกับการใช้งาน เมื่อเทียบกับการใช้ ถ่านมาตรฐานแล้วคุ้มค่ากว่ากันเยอะนางสุปรานี กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก