คนแห่ไถ่ชีวิตควายเผือก-หลังโด่งดังในเฟซบุ๊ก

คนแห่ไถ่ชีวิตควายเผือก-หลังโด่งดังในเฟซบุ๊ก

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 72 หมู่บ้านทุ่ง ม.2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
 
ได้มีเจ้าของกระบือ 2 ตัวชื่อว่า นายล้วน จันทร์แปงเงิน อายุ 70 ปีเจ้าของบ้านซึ่งมีอาชีพเป็นเกษตรกรได้ประกาศขายให้ไถ่ชีวิตกระบือทั้ง 2 ตัวอายุ 3 ปีเท่ากันโดยตัวหนึ่ง เป็นควายเผือกจึงเรียกว่าเจ้าเผือกส่วนอีกตัวเป็นกระบือดำจึงเรียกว่าเจ้าดำ เป็นเงินขายยกคู่ 65,000 บาท โดยนายล้วนมีข้อแม้ว่าผู้ที่จะซื้อไปต้องนำไปเลี้ยงดูโดยไม่นำไปฆ่าและชำแหละขายเหมือนกระบือทั่วไป ซึ่งหลังจากนั้นได้มีผู้พบเห็นนำเรื่องราวและภาพถ่ายเจ้าเผือกและเจ้าดำไปเผยแพร่ทางสื่ออินเตอร์เน็ตสาธารณะโดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ล่าสุดพบว่ามีคนติดต่อไปยังนายล้วนเป็นจำนวนมากและมีการรวบรวมเงินบริจาคก่อนจะมีการไปติดต่อซื้อและนำไปเลี้ยงดูตามสถานที่ที่ได้ตกลงกับนายล้วนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ที่นำกลุ่มพลังประชาชนใจบุญคือนายวชิระ รัศมีจันทร์ นักธุรกิจเจ้าของโครงการโขงวิวและโขงวิว สเตชั่น

ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านห้วยเกี๋ยง ม.8 ต.เวียง อ.เชียงแสน โดยภายหลังพบข่าวเผยแพร่ออกไปนายวชิระได้ติดต่อผู้คนเพื่อให้ร่วมกันทำบุญโดยเจ้าตัวลงทุนนำร่องไปก่อนจำนวน 10,000 บาทจากนั้นปรากฎว่าได้มีผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเป็นเงินตั้งแต่หลักร้อยบาทจนถึงหลายพันบาท จนได้เงินไปไถ่ชีวิตเจ้าเผือกและเจ้าดำตามราคาที่นายล้วนตั้งเอาไว้

นายล้วน กล่าวว่าได้ซื้อกระบือทั้ง 2 ตัวมาจากพ่อค้าชายแดนในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนเพราะสงสาร

เนื่องจากหากปล่อยไปมันจะถูกนำไปชำแหละขาย จากนั้นได้เลี้ยงดูเรื่อยมาพบว่ามันเชื่องมากสั่งให้หยุดหรือเดินก็ทำตามนั้นรวมทั้งไม่ดุ ใครก็เข้าไปจับลูบตัวได้ จึงมีความผูกพันแต่เนื่องจากไม่สามารถรับภาระเลี้ยงดูต่อไปได้แล้วจึงอยากให้ผู้ใจบุญรับไปเลี้ยงดูหรือไถ่ชีวิตมันไป เพราะมีพ่อค้าไปติดต่อซื้อกันหลายรายเพื่อจะนำไปชำแหละซึ่งบางคนให้ราคาสูงกว่าที่ตั้งเอาไว้เสียอีกแต่ตนก็ไม่ยอมขายจนกว่าจะมีผู้รับปากจะซื้อไปเลี้ยงโดยไม่นำไปฆ่า ทั้งนี้ภายหลังข่าวกระจายออกไปมีคนจากที่ไกลทั้งจาก จ.ชลบุรี จ.สุพรรณบุรี ฯลฯ โทรศัพท์ไปขอซื้อ แต่เมื่อตนพบมีคนในเชียงรายใจบุญรับซื้อไปเช่นกันจึงได้ขายให้ที่ใกล้บ้านดีกว่าเพราะจะได้ไปเยี่ยมดูมันได้ด้วย จึงขออนุโมทนาบุญให้ทุกคนที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย

ด้านนายวชิระ กล่าวว่าจะนำกระบือคู่นี้ไปเลี้ยงร่วมกับม้าและแกะที่โครงการเลี้ยงเอาไว้รองรับการท่องเที่ยวอยู่แล้วที่เลขที่ 888

บ้านห้วยเกี๋ยง ม.8 ต.เวียง อ.เชียงแสน และยืนยันว่าเราเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจึงไม่นำไปชำแหละขายแน่นอน แต่จะเลี้ยงดูอย่างดีเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่เลี้ยงเอาไว้ก่อนหน้านี้ กระนั้นเบื้องต้นขอให้นายล้วนเลี้ยงดูไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อจะได้จัดหาสถานที่ให้เจ้าเผือกและเจ้าดำอยู่ต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์