ขี้เมาเฮ! คำสั่งห้ามเป็นหมัน เลี่ยงขายช่วงสงกรานต์

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

จะนำมาตรการห้ามขายเหล้าเบียร์ช่วงเทศกาลสงกรานต์เข้าหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากมีกฎหมายขัดกันอยู่ 2 ฉบับคือ ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 253 ที่อนุญาตให้ขายสุราได้ระหว่างเวลา 11.00-15.00 น.และ 17.00-24.00 น. ขณะที่พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 28 ให้อำนาจกับคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กำหนดเวลาห้ามขายสุรา จึงต้องถามเพื่อให้มีความชัดเจนในการปฏิบัติ  

อย่างไรก็ตาม รมช.สาธารณสุข กล่าวเพิ่มว่า  หากไม่สามารถประกาศห้ามขายสุรา ก็อาจนำมาตรการอื่นๆ มาบังคับใช้แทน

เช่น การกำหนดห้ามดื่มเหล้าในที่สาธารณะ ตามมาตรา 31 ของพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคณะกรรมการต้องมาพูดคุยกันอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่า สถานที่วัด โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และท้องถนน จะกำหนดเป็นสถานที่ห้ามดื่มในช่วงเทศกาล พร้อมทั้งยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข ต้องมีแนวทางออกมาดำเนินการในช่วงสงกรานต์นี้ให้ได้  "สาเหตุที่ยังตัดสินใจได้ ไม่ใช่เพราะดึงเรื่อง เพื่อช่วยเหลือบริษัทเหล้า แต่เป็นข้อสังเกตเรื่องกฎหมายที่ต้องการให้ทุกอย่างชัดเจน ทุกคนไม่มีใครอยากเป็นครม.เขาพระวิหารสอง เพราะบริษัทเหล้ามีนักกฎหมายมือฉมังจำนวนมาก ไม่ใช่เกรงใจบริษัทเหล้า" นายมานิตกล่าว 

รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า หากกฤษฎีกาตีความว่า ไม่สามารถห้ามขาย และห้ามดื่มเหล้าได้ คงต้องแก้กฎหมาย

เนื่องจากพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงที่ออกก็มีการถกเถียงกันมาก หากกฎหมายไม่ชัดเรื่องอื่นๆ ก็เดินหน้าต่อไม่ได้ ซึ่งความจริงประกาศคณะปฏิวัติทั้งหมดควรจะเลิกใช้ได้แล้ว แต่ยอมรับว่ากระบวนการดังกล่าวต้องใช้เวลา ส่วนที่ฝ่ายอื่นอ้างเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นมุมมองของคนที่เกี่ยวข้อง แต่กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่รักษาผู้เจ็บป่วย เมื่อพบว่าสาเหตุมาจากการดื่มสุราก็ต้องแก้ไข และมีผลวิจัยว่าสาเหตุของอุบัติเหตุกว่า 80 %ในเทศกาลเกิดจากการดื่มสุรา หากห้ามขายเหล้าได้ ก็จะลดจำนวนอุบัติเหตุได้ 

ด้านนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยว กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับมาตรการห้ามขายเหล้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

แต่อยากให้งดเว้นมาตรการดังกล่าวในปีนี้ออกไปก่อน เพราะวิกฤติการท่องเที่ยวขณะนี้กำลังถูกซ้ำเติมมาก โดยหลังเหตุการณ์ผู้ชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง การท่องเที่ยวประสบวิกฤติอย่างหนัก ถ้ามาห้ามการขายเหล้าช่วงสงกรานต์อีก การท่องเที่ยวก็ตายสถานเดียว อยากขอความเห็นใจด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ พยายามแก้วิกฤติท่องเที่ยวให้มากที่สุด ดังนั้นทุกมาตรการต้องเป็นการช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น ต้องเห็นใจบ้าง ขอให้ปริมาณนักท่องเที่ยวกลับคืนมาที่ 16 ล้านคนก่อน และมีรายได้คืนมา 5 แสนล้านบาทก่อน ส่วนปีหน้าจะร่วมสนับสนุนมาตรการนี้เต็มที่  

“คนตายจะไปห้ามตายคงไม่ได้ ฟ้าลิขิตไว้แล้ว ตัวเองไม่ดีเอง ตายก็สมควรแล้ว คนที่ตายส่วนใหญ่มาจากจักรยานยนต์ ไม่ได้เกี่ยวกับเมาเหล้า ส่วนคนจะกินเหล้ายังไงก็ต้องกิน ให้ไปห้าม เขาก็ต้องกิน แต่การออกมาตรการดังกล่าว ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาสูง กระเทือนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเที่ยวเมืองไทยช่วงสงกรานต์ เขาอาจไม่มาได้ ” นายชุมพลกล่าว  

ด้านคุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ขั้นตอนการหารือข้อกฎหมาย ปกติต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

เนื่องจากกฤษฎีกาต้องส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ประชุม เพื่อหารือในเรื่องนี้ ก่อนส่งความเห็นกลับไปยังครม. ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ คณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 กล่าวว่า หากจะต้องส่งเรื่องสอบถามกฤษฎีกาว่าข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ขัดกับประกาศคณะปฏิวัติหรือไม่นั้นว่า ต้องใช้เวลานานมาก หรืออย่างเร็วที่สุดก็เกือบ 1 เดือน สุดท้ายก็จะออกกฎมาบังคับใช้ไม่ทันเทศกาลสงกรานต์นี้อย่างแน่นอน