ขสมก.เบรกขึ้นค่าตั๋วเมล์ร้อนหลัง5ทุ่ม

16พ.ค.2556 นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงกรณีการปรับอัตราค่าโดยสารรถธรรมดา ในช่วงเวลา 23.00-05.00 น. อีก 1.50 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ว่า ขณะนี้ขสมก.จะยังไม่จัดเก็บค่าโดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งมีประมาณ 65 เส้นทาง เนื่องจากเกรงว่าจะสร้างภาระให้แก่ประชาชนเพิ่มเติม และสร้างความสับสนให้แก่ผู้โดยสารที่ขึ้นรถในเวลาคาบเกี่ยวกัน โดยขสมก.ได้ทำหนังสือไปยังคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อให้ทบทวนมติปรับขึ้นราคาดังกล่าวแล้ว

 “ตั้งแต่ปี 2527 ขสมก.จัดเก็บค่าโดยสารรถธรรมดา ช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่ม 1.50 บาทตลอดสาย รวม 25 เส้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางที่วิ่งกะตอนกลางคืนตั้งแต่เวลา 23.00-05.00 น. แต่ที่เหลืออีก 65 เส้นทาง ขสมก.จะยังไม่จัดเก็บเพิ่ม คงเก็บค่าโดยสารราคาเดียวกับช่วงเวลาปกติ เพราะเกรงว่าผู้โดยสารจะสับสน ซึ่งขสมก.ต้องขอโทษประชาชนที่สร้างความสับสน” นายโอภาส กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การเตรียมปรับขึ้นค่าโดยสารดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้แก่รมว.คมนาคมอย่างมาก โดยสั่งให้ ขสมก.ยกเลิกการปรับขึ้นราคาดังกล่าว และเป็นที่น่าสังเกตว่า การปรับขึ้นราคาครั้งนี้ ขสมก.ไม่ได้ยื่นเรื่องขอปรับราคา แต่เป็นมติจากคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ทำให้บางฝ่ายมองว่า รถร่วมบริการ ขสมก.ของเอกชนบางรายจะได้ประโยชน์ เนื่องจากถือโอกาสปรับขึ้นราคาไปด้วย

ด้านนายฉัตรชัย ภู่อารีย์ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถสองแถว กล่าวว่า ต้นเดือนมิถุนายนนี้ จะขอเข้าพบรมว.คมนาคม เพื่อขอปรับค่าโดยสารรถสองแถวในช่วงเวลา 21.00-22.00 น. เป็น 15 บาทตลอดสาย และระหว่าง 22.00-04.00 น. จัดเก็บเป็น 20 บาทตลอดสาย เนื่องจากช่วงเวลากลางคืนรถสองแถวจะวิ่งเก็บค่าโดยสารได้เที่ยวเดียว คือ เฉพาะขาเข้าซอย หรือเวลาที่คนกลับบ้านเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการรถสองแถวต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ ผู้ประกอบการปุ๋ยจะประกาศลดราคาปุ๋ยทุกชนิดลงเนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เมื่อค่าบาทแข็งทำให้ต้นทุนลดลงตามไปด้วย โดยเฉลี่ยราคาปุ๋ยทุกชนิดจะลดลงประมาณ 10% จากราคาเดิม ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาแนะนำที่กรมได้ประกาศไว้

ส่วนการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการก๊าซหุงต้มนั้น หากกระทรวงพลังงานประกาศปรับขึ้นราคาขายก๊าซหุงต้มเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 1 ปีจริง กลุ่มผู้ค้าก๊าซก็จะปรับราคาจำหน่ายปลีกเพิ่มขึ้นถังละ 5 บาท สำหรับก๊าซหุงต้มขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม รวมค่าขนส่งระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตรที่ประมาณ 10-20 บาท ซึ่งจะทำให้ราคาจำหน่ายปลายทางอยู่ที่ราคาถังละ 300 บาทในเดือนแรก ส่วนในเดือนถัดไปจะมีการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นถังละ 7.50 บาทตามราคาที่ปรับสูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการตลาดสด 16 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการคงราคาอาหารปรุงสำเร็จที่เป็นเมนูยอดนิยมไว้ ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการยินดีทีจะให้ความร่วมมือควบคุมแผงขายอาหารให้จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จตามราคาแนะนำที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือ 10 เมนูอาหารยอดนิยม ออกไปอีก 1 ปี