กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลก เฉพาะองค์ปราสาทพระวิหาร

กัมพูชายอมขึ้นทะเบียนเพียงองค์ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และพร้อมจัดทำแผนที่ใหม่ “นพดล” ย้ำ เป็นความสำเร็จครั้งสำ คัญ ที่สามารถรักษาสิทธิเหนือดินแดนของประเทศไว้ได้

(24พ.ค.) นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลง ผลการเดินทางไปประชุมร่วมกับกัมพูชา และองค์การยูเนสโก ที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า

คณะผู้แทนไทยประกอบด้วยผู้แทนจากส่วนราชการกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส และผู้แทนจากสำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทย ประจำยูเนสโก รวม 9 คน ได้หารือกับฝ่ายกัมพูชา นำโดยนาย ซก อาน รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและบุคคลระดับสูงจากรัฐบาลกัมพูชา มีผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายวัฒนธรรม ของยูเนสโก เข้าร่วมหารือด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างฉันท์มิตร ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง โดยทุกฝ่ายพยายามแสดงความเข้าใจในท่าทีของแต่ละฝ่าย


 นายนพดล กล่าวว่า

กัมพูชายอมรับการเปลี่ยนแปลงการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร โดยจะขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเป็นมรดกโลก และในวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้ กัมพูชาจะส่งแผนที่ใหม่แสดงขอบเขตตัวปราสาทให้ฝ่ายไทยและยูเนสโก พิจารณาอีกครั้ง ในส่วนของไทยยังยืนยันในการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ดังนั้นขั้นตอนต่อไปคือจะนำเสนอนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนนตรี โดยเร็วที่สุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง


“เรื่องนี้ถือเป็นความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องการอ้างสิทธิพื้นที่ทับซ้อน และไทยสามารถรักษาสิทธิทางเขตแดนไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยจะไม่ส่งกระทบต่อสิทธิของแต่ละฝ่าย ในการจัดทำหลักเขตแดนในบริเวณดังกล่าวร่วมกันในอนาคต” นายนพดล กล่าว


นายนพดล กล่าวว่า
 
ข้อตกลงดังกล่าว ได้บันทึกไว้เป็นร่างคำแถลงการณ์ร่วม (Joint Communiqué) ซึ่งได้ตกลงกันอย่างชัดเจนว่า แต่ละฝ่ายต้องนำผลการหารือครั้งนี้ ขอความเห็นชอบจากรัฐบาลของตัวเองก่อน และจะต้องพิจารณาว่า แผนที่ที่ได้รับการแก้ไขแทนแผนที่เดิม ที่กัมพูชาเคยใช้ประกอบในการขอขึ้นทะเบียน เมื่อ พ.ศ.2550 มีความเหมาะสมหรือไม่ ส่วนพื้นที่ทับซ้อน ทั้ง 2 ฝ่ายจะพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง


ต่อข้อถามว่า เหตุใดกัมพูชาจึงเปลี่ยนแปลงท่าที นายนพดล กล่าวว่า ขณะนี้ไทยและกัมพูชามีทัศนคติที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัพูชา ต้องการเจรจาฉันท์ประเทศเพื่อนบ้าน


อย่างไรก็ตาม นายนพดลปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า
 
การที่ไม่มีทหารร่วมเดินทางไปหารือครั้งนี้ด้วย เพราะมีความขัดแย้งกัน โดยยืนยันว่า พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ติดภารกิจราชการของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ที่ประเทศรัสเซีย จึงไม่ได้เดินทางไปด้วย ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งแต่อย่างใด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์