กษิตปัดขัดแย้งกลาโหม แจงบัวแก้วแยกหน้าที่รับผิดชอบ

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 เมษายน
 
ถึงการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี ที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน ว่า นายอัษฎา ชัยนาม ประธานเจบีซีฝ่ายไทย นำคณะไปร่วมประชุม โดยวันแรกจะหารือถึงระเบียบวาระการประชุม รวมทั้งรูปแบบ เนื้อหา ซึ่งกัมพูชาก็เห็นพ้องกับฝ่ายไทย แม้ว่าบันทึกผลการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับของฝ่ายไทยจะยังไม่ผ่านรัฐสภาก็สามารถประชุมได้ นอกจากนี้ยังจะหารือถึงการคัดเลือกบริษัทถ่ายภาพทางอากาศและการจัดคณะเดินสำรวจเขตแดน โดยเฉพาะเขตที่ 5 หลักที่ 1-23

ส่วนเรื่องการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือจีบีซี

นายกษิตกล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงกลาโหมว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะใช้จีบีซีมารับผิดชอบข้อกำหนดหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย 15 คน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ทั้งการคุ้มครองเอกสิทธิ์ รวมทั้งขอบข่ายหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ในฐานะที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย ส่วนจะให้ผู้สังเกตการณ์ไปประจำจุดใดนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม เนื่องจากเกี่ยวโยงกับการหยุดปะทะกับผ่ายกัมพูชา ตามความประสงค์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี

"ได้หารือกับกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 6 เมษายน ได้ข้อตกลงร่วมกันว่า กระทรวงการต่างประเทศจะรับผิดชอบทั้ง 2 เรื่อง คือการกำหนดหน้าที่ของผู้สังเกตการณ์จากฝ่ายอินโดนีเซีย และการกำหนดที่ตั้งที่ผู้สังเกตการณ์จะมาประจำที่จุดใด พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีผู้สังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทุกอย่างไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด" นายกษิตกล่าว
 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า วันที่ 9 เมษายน จะเดินทางไปร่วมประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นและรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่น ซึ่งจะหารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียและกัมพูชา เกี่ยวกับประเด็นผู้สังเกตการณ์ด้วย

ส่วนการค้าขายบริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายสินค้าค่อนข้างเงียบเหงา มีชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้าน้อยมาก ซึ่งนางสมหวัง ทองดี อายุ 52 ปี แม่ค้าขายผักกล่าวว่า จากการสอบถามลูกค้าชาวกัมพูชารายหนึ่งทราบว่า ชาวกัมพูชายังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากการประชุมร่วมเจบีซียังไม่มีกำหนดลงตัวว่าจะมีการประชุมที่ใดและเมื่อใด