กรรมซ้ำด.ช.กตัญญูวัย9 ขวบ อยู่บ้านคนเดียวพายุบ้านพัง พ่อนอนป่วยนอนรพ.

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ว่า

ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้เกิดลมพายุและตกกระหน่ำพัดบ้านพังได้รับความเสียหายจำนวนหลายหลัง  ในจำนวนนั้นมีบ้านของเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่อาศัยเฝ้าบ้านคนเดียว พายุฝนพัดบ้านเสียหลังทั้งขณะนอนอยู่ในบ้าน ส่วนพ่อนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ  พบว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ติดถนนเนินมะปราง-สากเหล็ก เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง เลขที่ 110/2 หมู่ 2 ต.เนินมะปราง พายุฝนได้พัดประตู ฝาบ้านและ หลังคาบ้านหายไปทั้งหมด ทำให้ข้าวของเครื่องใช้โดนน้ำฝนเปียกเสียหาย ซึ่งเจ้าของบ้านทราบชื่อนายบุญมี ยานามะ อายุ 47 ปี  ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เนื่องจากป่วยเป็นอัมพาตท่อนล่าง ตอนอยู่บ้านจะใช้ก้นเดินแทนเท้า สาเหตุมาจากเป็นโรคกระดูกพรุน ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นประจำ กระทั่งล่าสุด ทางโรงพยาบาลเนินมะปราง ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธ ได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว โดยปล่อยให้ลูกชายยานามะ ชื่อ ด.ช.พงษ์พัฒน์ ยานามะ อายุ 9 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนเนินมะปรางอยู่บ้านตามลำพังคนเดียว

จากการสอบถาม ด.ช.พงษ์พัฒน์ หรือน้องทีม กล่าวว่า
 
มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน ส่วนพี่ๆแยกครอบครัวไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพไม่เคยกลับมาบ้านเลย ส่วนตัวเองพักอาศัยอยู่กับพ่อแม่  ช่วงหลังพ่อทำงานหนักจนไม่สบายต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตลอดมา เพราะเป็นโรคกระดูกพรุน ไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ  ต้องใช้ก้นเดินแทนเท้า กระทั่งพ่อป่วยหนักไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ตนต้องนอนเฝ้าบ้านเพียงคนเดียว ส่วนแม่ก็ไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาล ต่อมาแม่ได้หายไปโดยไม่ยอมกลับมาบ้าน ทราบว่าไปมีแฟนใหม่ ทุกวันศุกร์ตนต้องขึ้นรถจากอ.เนินมะปรางไปเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อไปเช็ดตัวให้ และทำความสะอาดเอาโถปัสสาวะไปทิ้ง ช่วงเย็นวันอาทิตย์จะเดินทางกลับบ้านมาเรียนหนังสือตามปกติ

ด้านด.ต.นิคม อินไหว ผบ.หมู่ งาน ป. สภ.เนินมะปราง กล่าวว่า
 
ครอบครัวของนายบุญมี เหมือนกับชะตากรรมชีวิตกลั่นแกล้ง เพราะพ่อก็ป่วยช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ตอนอยู่บ้านจะขยันแม้จะเดินไม่ได้ยังนั่งทำกับดักหนูขายอันละ 10 บาท จนร่างกายทรุดต้องไปนอนอยู่โรงพยาบาลรักษาตัว  โดยช่วงแรกจะมีภรรยาไปดูแลเฝ้าไข้  แต่ต่อมาได้หนีไปมีแฟนใหม่ ส่วน ด.ช.พงษ์พัฒน์ อยู่บ้านคนเดียว ต้องดูแลและช่วยเหลือตัวเองตลอดมา ทุกวันศุกร์ ด.ช.พงษ์พัฒน์จะไปหาพ่อที่โรงพยาบาล และจะกลับมาวันอาทิตย์ เพื่อเตรียมตัวไปเรียนหนังสือในวันจันทร์  ซึ่งทำอย่างนี้มาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เห็นสภาพแล้วน่าสงสารมาก และเป็นเด็กกตัญญู ไม่ทราบว่าอะไรจะซ้ำเติมขนาดนี้ เพราะมาเจอพายุพัดจนบ้านพังเสียหายหมด

ขณะที่นางทองหม่าย ปินตา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 2 ต.เนินมะปราง กล่าวว่า
 
ตนเป็นน้องสาวนายบุญมี และมีศักดิ์เป็นอาของ ด.ช.พงษ์พัฒน์ หรือน้องทีม  กล่าวว่า น้องทีมเป็นเด็กดีเรียนดี ปกติครอบครัวอยู่กับพร้อมหน้า โดยนายบุญมี พี่ชายไม่เคยยอมแพ้ดิ้นรนต่อสู้ชีวิต  ขนาดไม่สบายยังทนทำที่ดักหนูขายอัน 10 บาท จนตัวเองทรุดหนักต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่มาถูกเมียทิ้ง ปล่อยให้ ด.ช.พงษ์พัฒน์ ต้องมารับภาระคนเดียว โดยไม่มีคนดูแล ส่วนญาติก็จะนำข้าวปลาอาหารมาให้ในแต่ละวัน แต่ ด.ช.พงษ์พัฒน์ไม่ยอมไปนอนกับญาติคนไหน ขอนอนเฝ้าบ้านคนเดียวมานานเกือบ 3 เดือนแล้ว เป็นชีวิตที่น่าสงสาร

“ลมพัดแรงมาก เหมือนชาตะฟ้าลิขิตมาเล่นงานครอบครัวนี้ พายุพัดเสียหายอยู่หลังเดียว ตอนพายุพัด น้องทีมก็อยู่ในบ้าน ได้วิ่งหลบพายุมาอยู่บ้านเพื่อนบ้าน หลังพายุสงบ แต่ในยังตกอยู่ น้องทีมกลับมาบ้าน เก็บเสื้อผ้า หนังสือและข้าวของที่เปียกฝน เก็บของไปก็ร้องไห้ไป พวกตนและเพื่อนบ้านก็ร้องไห้ตาม รู้สึกสงสารมาก” นางทองหม่าย กล่าว 

ทั้งนี้ เทศบาลตำบลเนินมะปราง ได้มาสำรวจควายเสียหายบ้านของทีมเพื่อเตรียมความช่วยเหลือแล้ว ส่วนผู้ใจบุญ สามาถช่วยเหลือน้องทีมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ นางทองหล่าย ( อา ) 087-8439953 และดต.นิคม ( เพื่อนบ้าน ) 081-2814659


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์