กมธ.ท่องเที่ยววุฒิฯค้านแนวคิดห้ามขายสุราสงกรานต์

วันนี้ (23 มี.ค.) ที่รัฐสภา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ 310 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหากฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว วุฒิสภา

ที่มีนายพรชัย สุนทรพันธุ์ ส.ว.สรรหา เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการได้จัดสัมมนาหัวข้อ
มาตรการในการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ นางธันยรัศน์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา นายศักรินทร์ ช่อไสว ผู้อำนวยการสมาคมโรงแรมไทย นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา สำนักงานคณะกรรมาการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ รวมทั้งตัวแทนจากธุรกิจภาคต่าง ๆ เข้าร่วมเสวนา เพื่อพิจารณาข้อเสนอของ นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ที่เสนอให้ครม. ออกมติ ห้ามขายในช่วง 12-14 เม.ย. ตลอด 24 ชม. ยกเว้น โรงแรมผับบาร์ ร้านอาหาร ที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำหน่ายได้เฉพาะ 18.00 – 24.00 น. เท่านั้น 
 

นางธันยรัศน์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวเห็นว่าในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ รัฐบาลควรชะลอแนวคิดดังกล่าวออกไปก่อน

โดยอาจจะให้เริ่มใช้มาตการนี้ในปีหน้า แต่ควรต้องทำการศึกษาให้ถ่องแท้ ก่อนจะมีการประกาศใช้ เพราะเห็นว่าการประกาศห้ามจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะไม่ทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลง เนื่องจากไม่ได้มีการจำกัดการดื่ม และอาจมีการกักตุนสินค้า รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการประกาศดังกล่าวจึงเป็นการซ้ำเติมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการประกาศใช้ที่ไม่รอบคอบ 
 

นางธันยรัศน์ กล่าวต่อว่า ทางคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวจะทำหนังสือถึงรัฐบาลในวันนี้ เพื่อให้พิจารณาชะลอนโยบายดังกล่าวออกไปก่อน

และอยากให้รัฐบาลได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางการป้องกันไม่ให้ประทบต่อทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้รัฐบาลยกเรื่องการท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อถือเป็นส่วนหลักในการขับเคลื่อนรายได้ให้ประเทศไทยมากที่สุด
ขณะที่ น.พ.บัณฑิต กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเห็นว่าควรจะมีแนวทางที่ 3 เพื่อให้ทางรัฐบาลทำการพิจารณา เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาของทุกภาคส่วน เนื่องจาก สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุคือการเมาแล้วซื้อเพิ่ม จากผลสำรวจพบว่ากว่า 50% มีการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ โดยอาจมีการไปซื้อเพิ่ม ซึ่งวัตถุประสงค์ของการประกาศใช้นโยบายนี้ ไม่ได้ห้ามดื่ม เป็นเพียงการห้ามจำหน่าย หากมีการประกาศใช้ ก็จะไม่ได้ผล โดยรัฐบาลควรจะออกแบบนโยบาย เพื่อลดอุบัติเหตุให้ได้มากกว่า ในส่วนทางเลือกที่ 2 ตนเห็นว่าควรแยกธุรกิจโรงแรมออกมา เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ     

ด้าน นายศักรินทร์ กล่าวสอดคล้องกับ น.พ.บัณฑิต โดยเห็นว่าควรจะมีทางเลือกที่
3 สำหรับธุรกิจโรงแรม

เนื่องจาก จะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ยังเป็นตัวกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนใจไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านที่มีเทศกาลคล้ายคลึงกับประเทศไทยแทน พร้อมกันนี้ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าการที่รัฐบาลเสนอนโยบายนี้ออกมา อาจมีความพยายามให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคกักตุนสินค้า โดยการซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนมองว่าการขายสุราไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่จะเป็นมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้รัฐบาลกลับไปพิจารณา เพราะการออกนโยบายเช่นนี้จะเป็นการทำร้ายในหลายภาคส่วน
 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์