กทม.ตั้งเป้าเป็นแชมป์เมืองสุขภาพดี


     จากแคมเปญ1,000 เมืองทั่วโลก ด้าน'ฮู'พบแนวโน้มโรคซึมเศร้าน่าห่วง กทม.เร่งแก้หลังพบคนกรุงกว่า 3 แสน เริ่มป่วย


        วันนี้(17 พ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า หลังจากตนได้รับเชิญจากองค์การอนามัยโลก(WHO) ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการศูนย์พัฒนาสุขภาพขององค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย.นี้ ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น โดยการประชุมเป็นการหารือแนวทางในการกำหนดกรอบการทำงานของศูนย์พัฒนาสุขภาพขององค์การอนามัยโลก รวมถึงศึกษาผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชากรโลกและปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพขอคนในเมือง ทั้งนี้ในที่ประชุมจะมีการหารือถึงปัญหาการขยายตัวของเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เช่น โรควัณโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แลโรคซึมเศร้า ซึ่งปัจจุบันเป็นโรคที่น่าเป็นห่วงอันดับที่ 4 ของโรค และมีแนวโน้มจะขึ้นสู่อันดับที่ 2 ในอนาคต ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย.2553 กทม.ได้กำหนดจัดงาน "สุขภาพดีทั่วโลก 2010" หรือ " World Health Day 2010" ภายใต้แคมเปญ 1,000 เมือง 1,000 ชีวิต ซึ่งจะมีการเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพประชาชน พร้อมกันทั้ง 1,000 เมืองทั่วโลก โดยจะค้นหาแชมป์เปี้ยนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพที่ดีต่อคนเมือง นอกจากนี้ตนได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งกรรมการที่ปรึกษาประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียวใต้ จากทั้งหมด 9 คน ด้วย


        ด้าน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ตั้งเป้าจะเป็นแชมป์เปี้ยนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้จาก 1,000 เมืองให้ได้ ซึ่งตนมั่นใจว่าน่าจะสามารถทำได้ เพราะจากการประชุมที่ผ่านมาพบว่า กทม.มีระบบบริหารจัดการและป้องกันโรคติดต่อได้ค่อนข้างดีกว่าเมืองอื่น ๆ นอกจากนี้ ในส่วนของการแก้ปัญหาภาวะโรคซึมเศร้าของคนกรุงเทพฯ นั้น กทม.จะรีบดำเนินการ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแก้ปัญหาทั่วประเทศไทย ซึ่งทำให้ผู้ป่วยลดลง แต่ในพื้นที่กรุงเทพฯปัญหาดังกล่าวยังไม่ลดลง คือพบคนป่วยแล้ว กว่า 300,000 คน ส่วนที่อาการรุนแรงต้องได้รับการรักษา มีถึงร้อยละ 4.4  กทม.จึงจะมีแนวทางแก้ไข โดยในเดือน ธ.ค. จะมีการให้ผู้ป่วยมาลงทะเบียนที่ศูนย์สาธารณสุข ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนจนได้ตัวเลขผู้ป่วยแล้ว จะนำตัวเลขไปรายงานต่อที่ประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในปี 2553 ที่จะมีการประชุมร่วมกัน


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์