กกอ.ชี้บัณฑิตไทยไร้คุณภาพ

ชี้จบออกมาไม่สามารถทำงานได้เลย ต้องเข้าคอร์สอบรมฝึกทักษะก่อนถึงจะทำได้ ขณะที่"วรวัจน์"สั่งเดินหน้าเพิ่มเงิน 15,000บาทให้คนวุฒิ ป.ตรีทุกคน 

วันที่ 6 ก.ย.ศ.ดร.ภาวิช  ทองโรจน์  อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าบัณฑิตไทยไม่มีคุณภาพว่า  คุณภาพบัณฑิตไทยตกต่ำมานานพอสมควรแล้ว ภาพรวมยิ่งน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะบัณฑิตที่จบในสาขาที่ไม่มีองค์กรวิชาชีพกำกับดูแลอย่างสายสังคมจะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร และยังผลิตมาก  ขณะที่ตนเคยคุยกับผู้ประกอบการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบัณฑิตที่จบออกมาส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ทันที ต้องมาเสียเวลาจัดอบรมและฝึกทักษะพอสมควรถึงจะทำงานได้ ส่วนที่ทำงานได้เลยมีน้อยมาก และเป็นผลผลิตจากมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น  ดังนั้นมหาวิทยาลัยต่าง ๆจะต้องหันกลับมาดูและเตรียมความพร้อมคุณภาพของบัณฑิตให้มากขึ้น ทั้งเรื่องภาษา  เทคโนโลยีที่ทันสมัย  การเรียนรู้เขารู้เรากับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้เหลือเวลาไม่กี่ปีจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้วด้วย

ด้านดร.สุเมธ  แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า
 
ที่ผ่านมาตนคุยกับผู้ใช้บัณฑิตหรือสถานประกอบมาตลอดต่างก็บ่นว่าบัณฑิตไทยไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร และก่อนทำงานต้องมาจัดฝึกอบรมให้ก่อน  ทำให้ต้องเสียงบฯและเวลาพอสมควรกว่าบัณฑิตจะทำงานได้   ส่วนที่รัฐบาลมีนโยบายขึ้นเงินให้กับทุกคนที่จบปริญญาตรี 15,000 บาท นั้น ที่ผ่านมานายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ไปสำรวจว่ามีบุคลากรในสังกัดที่เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทกี่คน  ซึ่งสกอ.ได้แจ้งไปยังสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมดให้สำรวจว่ามีข้าราชการ  พนักงานมหาวิทยาลัย และพนักงานราชการกี่คนเงินเดือนต่ำกว่าที่กำหนด  แต่ละคนมีตำแหน่งอะไรบ้าง และให้ส่งข้อมูลมาที่ สกอ. ภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเสนอรมว.ศึกษาธิการต่อไป

ด้านนายวรวัจน์  รมว.ศึกษาธิการ   กล่าวถึงกรณีที่บุคลากรในมหาวิทยาลัยสอบถามเรื่องการขึ้นเงินเดือน 15,000 บาท นั้นจะเป็นการเพิ่มให้ใครบ้างจะรวมถึงพนักงานด้วยหรือไม่ว่า  การขึ้นเงินเดือนนั้นจะให้กับทุกคนที่จบปริญญาตรี และมีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท และขณะนี้ตนให้หน่วยงานในสังกัดไปรวบรวมว่าแต่ละที่มีบุคคลที่เข้าข่ายนี้กี่คน เพื่อสรุปและเสนอต่อรัฐบาลพิจารณาต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์