DSI แถลงแล้ว!! รถหรูสมเด็จช่วงผิดกม.ทุกขั้นตอน

แถลงผลการตรวจสอบรถยนต์โบราณ ยี่ห้อ เบนซ์ หมายเลขทะเบียน ขม 0099 ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ครอบครองว่า มีการเลี่ยงภาษี ซึ่งดีเอสไอ ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 111/2556 จากนั้นดีเอสไอ ได้ตรวจสอบตามขั้นตอน พบมีความผิด 4 ขั้นตอน คือการนำเข้าตัวถัง และเครื่องยนต์ ของรถเบนซ์ โดย  หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทเลี่ยงใช้ชื่อคนอื่นในการนำเข้า เพราะตามกฎหมายห้ามนำเข้าชิ้นส่วนรถจดประกอบชื่อเดียวกัน  ขั้นตอนการประกอบใช้อู่รถโบราณ บริษัท แอนซีทรานสฟอร์เมอร์ จำกัด ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงงานตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต ที่ได้กำหนดมาตรฐานการประกอบรถยนต์ไว้ ประกอบรถเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ขม 0099  ยื่นเสียภาษีสรรพสามิตของรถเบนซ์ ทะเบียน ขม 0099  มีการปลอมลายมือชื่อเจ้าของโรงงานประกอบรถยนต์ โดยเจ้าของโรงงานประกอบรถยนต์ ยืนยัน ดีเอสไอ ไม่เคยจดประกอบรถคันดังกล่าว การจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบก มีการปลอมลายเซ็นเจ้าของโรงงานประกอบรถยนต์ ปลอมการโอนลอย ปลอมบัตรประชาชน ดีเอสไอพบว่าผิดทุกขั้นตอน ความผิดเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ศุลกากร นำเข้าไม่ถูกต้อง พ.ร.บ.สรรพสามิต  และ มาตรา 27 พร.บ.ศุลกากร ครอบครองรถที่นำเข้ามาไม่ถูกต้อง  

ทั้งนี้ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า หลังจากนี้จะเป็นเรื่องการสืบสวนต่อไป เร่งรัดการดำเนินการ ต้องขอเอกสารเพิ่มจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าตรวจสอบเพราะมีผู้ร้องตามหลักการตรงไปตรงมา ไม่มีเจตนาเรื่องใดทั้งสิ้น เพื่อพิสูจน์รถคันนี้ชอบหรือไม่ชอบ ทุกขั้นตอนเป็นการดำเนินการร่วมของคณะกรรมการ

ระบุว่า ต้องสอบต่อไปเพราะพบมีลักษณะเป็นขบวนการ พร้อมๆกับการสอบสวนขยายผลไปยังผู้ครอบครอง ทั้งนี้ ผู้นำเข้ารถและบริษัทจดประกอบที่แจ้งเอกสารเท็จจะมีความผิด ต้องไปดูข้อกฎหมายต่อกรณีที่คืนรถแล้วจะพ้นผิดหรือไม่  ทั้งนี้ จะใช้ระยะเวลา 2-3 เดือนในการตรวจสอบคดีนี้  

ทั้งนี้ ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 111/2556 จากนั้น ได้ตรวจสอบตามขั้นตอน จนเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2558 พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้ออกมาเคลื่อนไหวและเข้ายื่นหนังสือต่อนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีในสมัยนั้นเพื่อทวงถามความคืบหน้า  ต่อมา ในวันที่ 25 ก.พ.2558 นางสุวณา จึงได้มอบหมายให้  พ.ต.ท.กรวัชร์ ตรวจสอบ