“เสริมสุข”แจงปอท. ยืนยันโพสต์ปฏิวัติ เป็นการวิเคราะห์ข่าวลือ

“เสริมสุข”แจงปอท. ยืนยันโพสต์ปฏิวัติ เป็นการวิเคราะห์ข่าวลือ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
 
นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อม นายนคร ชมพูชาติ ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. และพ.ต.อ.วรรณวุฒิ ชาญนุกุล รอง ผบก.ปอท. เพื่อให้ปากคำกรณีโพสต์ข้อความลงในเครือข่ายเฟซบุ๊คในเรื่องของการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาล
 

โดยนายนครกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาตามที่ปอท.ส่งหมายเรียกในฐานะพยาน เมื่อดูจากสำนวนคดีพบว่ายังไม่มีผู้ถูกกล่าวหา
 
เนื่องจากอยู่ขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมข้อมูลที่เห็นว่าน่าจะเป็นความผิด และมีบุคลคลเกี่ยวข้องซึ่งน่าจะให้ข้อมูลชัดเจนในเรื่องนี้ได้ จึงเรียกตัวมาชี้แจงทำความเข้าใจถึงกรณีที่นายเสริมสุขโพสต์ข้อความดังกล่าว ที่ส่งผลอาจจะทำให้เกิดความหวั่นไหวในหมู่ประชาชน เนื่องจากนายเสริมสุข มีฐานะเป็นผู้สื่อข่าว หลักการทำงานของผู้สื่อข่าว เราจะเห็นว่าจะต้องหาข่าว และค้นหาความจริง แม้บางข่าวจะยังไม่ได้ส่งให้กับทางสถานี แต่ยังมีหน้าที่เก็บข้อมูล และตรวจสอบว่าเป็นจริงมากน้อยแค่ไหนอย่างไร กรณีนี้ก็เช่นเดียวกันเป็นเรื่องที่มีข่าวลือออกมา มีเนื้อหาใจความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่อยู่ต่างประเทศคนหนึ่งว่า มีการจัดเตรียมทำรัฐประหาร ซึ่งนายเสริมสุขดูแล้วไม่น่าเชื่อ และเพื่อที่จะให้ประชาชน รวมถึงกลุ่มเพื่อนในเฟซบุ๊คได้เข้าใจว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และให้ช่วยกันตรวจสอบ นอกจากนี้ นายเสริมสุขยังโพสต์ข้อความให้เห็นต่อไปอีกว่า ข่าวไม่น่าเป็นจริงเป็นไปได้ยาก และไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งการมาให้ปากคำวันนี้ก็เพื่อชี้แจงให้พนักงานสอบสวนได้รับทราบเรื่อง โดยหวังว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์  ส่วนผู้โพสต์คนอื่นที่เป็นข่าวจะเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ดังนั้นยังมีอีกหลายสำนวน จึงต้องดูอีกครั้งว่าแต่ละคนมาให้ปากคำว่าอย่างไร
 

ขณะที่เสริมสุข กล่าวว่า ถ้าดูในเฟซบุ๊คที่ตนโพสต์จะเห็นว่า หลังจากโพสต์ข้อความตอนแรก จะมีเพื่อนเข้ามา
 
ซึ่งตนชี้แจงว่าโพสต์แรกที่เป็นข่าวลือเรื่องยึดอำนาจนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ ตนเป็นสื่อมวลชน พอมีเหตุการณ์ได้คุยกับทหาร เมื่อทราบเป็นข่าวลือ จึงเดินทางมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 

ด้าน พ.ต.อ.วรรณวุฒิ กล่าวว่า  สำหรับเรื่องนี้ ใครจะผิดจะถูกอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เบื้องต้นเป็นไปตามที่นายนครชี้แจง

ทั้งนี้เมื่อใครโพสต์ข้อความ ถ้าเข้าความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เราก็ต้องเรียกตัวมา แต่การจะกล่าวหาว่าใครผิดถูกขึ้นอยู่กับการสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐาน และเจตนาของผู้ที่โพสต์ ไม่ใช่ว่าจะจับคนทั้งหมด แต่มุ่งดูเจตนาและกฎหมายประกอบ ผิดก็ว่าไปตามผิด แจ้งข้อหาแล้วสั่งฟ้องไป ส่วนผู้ที่โพสต์รายอื่นอีก 3 คนนั้น  ขณะนี้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพี่อให้ปากคำในฐานะพยานแล้ว 2 คน เหลืออีก 1 คนที่อยู่ระหว่างการติดต่อ อย่างไรก็ตาม ข้อความเดียวกัน มีคนโพสต์คนหนึ่ง แล้วคนนำไปแชร์หรือไลค์ต่อ ก็มีโอกาสมีความผิดตามไปด้วย แต่แยกเป็นคนละคดี เพราะกฎหมายไม่ได้เอาผิดแค่คนแรกเท่านั้น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์