เผยปูลงพื้นที่ดูคราบน้ำมัน4ส.ค.นี้

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


ผบ.ทร.สั่งทหารเร่งฟื้นฟูอ่าวพร้าวเกาะเสม็ด จนกว่าจะปกติ ขณะที่ผู้ว่าฯระยองตั้งศูนย์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เผย'ยิ่งลักษณ์'ลงพื้นที่ดูคราบน้ำมัน4ส.ค.นี้

 


31กรกฎาคม2556ความคืบหน้ากรณีท่อรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เกิดรั่วไหล ทำให้น้ำมันดิบไหลลงทะเลกว่า 5 หมื่นลิตร หรือ 50 ตัน ห่างจากฝั่งทะเลด้าน จ.ระยอง 20 ไมล์ทะเล เมื่อวันเสาร์ (27 ก.ค.) ที่ผ่านมา และบริษัทรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดเพื่อไม่ให้กระทบสภาพแวดล้อมและการท่องเที่ยว แต่ยังมีคราบน้ำมันทะลักเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะเสม็ด เนื่องจากคลื่นลมแรงพัดพาคราบน้ำมันดังกล่าวขึ้นฝั่งนั้น


น.อ.วิพันธ์ ชมะโชติ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุบริษัทพีทีที ฯได้ประสานมายังทัพเรือภาคที่ 1 เพื่อขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้ง พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้เฮลิคอปเตอร์ ลำเลียง แบบที่ 4 ขึ้นบินลาดตระเวน พร้อมทั้งสั่งการให้เรือหลวงบางปะกง และเรือ ต.82 เข้าควบคุมพื้นที่ไม่ให้เรือที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุ 


ทั้งนี้จากการบินสำรวจพบคราบน้ำมันกระจายตัวเป็นวงกว้าง ขนาดยาว 3 กม. และกว้าง 1 กม.ครอบคลุมพื้นที่บริเวณจุดที่น้ำมันรั่วไหล ในขณะเดียวกันศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กรมคุมมลพิษ ให้รับทราบและเตรียมการในส่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ รวมทั้งได้จัดเรือหลวงแสมสาร ซึ่งมีความพร้อมในการขจัดคราบน้ำมัน ฉีดน้ำยาปริมาณ 2 ตัน โดยในวันแรกสามารถขจัดคราบน้ำมันได้ถึงร้อยละ 65


น.อ.วิพันธ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาในวันที่ 28 ก.ค. ทุกหน่วยงานก็เร่งดำเนินการขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถขจัดคราบน้ำมันได้อีกร้อยละ 30 คงเหลือเพียงร้อยละ 5 จากปริมาณที่รั่วไหล จากนั้นในวันที่ 29 ก.ค.ได้มีการตรวจพบคราบน้ำมันถูกซัดเข้าสู่ฝั่งบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ทำให้นายวิชิต ชาติไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประกาศให้บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล โดยทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินจัดกำลังพลจำนวน 200 นาย เข้าปฏิบัติภารกิจในการขจัดคราบน้ำมันบริเวณชายหาด พร้อมทั้งจัดเรือ กร.303 และ เรือ ต.225 เป็นเรือสนับสนุนในการจัดส่งกำลังพลเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยมีน.อ.ชำนาญ พวงเพชร ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 เป็นหัวหน้าชุดควบคุมการปฏิบัติงาน


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ได้มีการสับเปลี่ยนกำลังพลจากนาวิกโยธิน เป็นหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 200 นาย เพื่อไม่ให้กำลังพลเกิดความอ่อนล้าและมลพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ


“พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังพลเข้าร่วมในการขจัดคราบน้ำมันเพื่อฟื้นฟูให้เกาะเสม็ดกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด โดยจัดกำลังพลเพิ่มเป็น 300 นาย จากหน่วยต่าง ๆ ประกอบด้วย กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 ฐานทัพเรือสัตหีบ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งกองทัพเรือจะสนับสนุนกำลังพลเข้าปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์ต่าง ๆ บนอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ” รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์