ตร.แจง 13 ประเด็นข้อสงสัยทนายประจำตัว เอกยุทธ-ชี้อัณฑะบวม เพราะศพเน่าเปื่อยตามธรรมชาติ

ภาพจากข่าวสดภาพจากข่าวสด


เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่บช.น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ณัฎฐ์ บุรณศิริ นวท.(สบ 4) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมประชุมความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร นักธุรกิจชื่อดัง 

ที่ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต พร้อมสรุป 13 ประเด็นข้อสงสัยตามที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ ไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีเพียงนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง อายุ 23 ปี คนขับรถนายเอกยุทธ และนายสุทธิศักดิ์ หรือเบิ้ม พิมพิสาร อายุ 28 ปี ลงมืออุ้มฆ่า และคณะกรรมการธิการการตำรวจ สภาผู้แทนฯ ตั้งไว้ ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ช.ม.

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยภายหลังประชุมว่า วันนี้ประชุมหลายส่วนร่วมกันคลี่คลายคดีนายเอกยุทธ รวมถึงประเด็นที่ทนายความ หรือกมธ.ตำรวจบางท่านตั้งข้อสงสัย ขอยืนยันว่าจากการทำงานที่ผ่านมาทุกชุดทุกฝ่ายที่ประสานงานกันพยายามคลี่คลายไม่ใช่เฉพาะคำถามจากข้อสังเกตดังกล่าว แต่ข้อเท็จจริงคืบหน้าเยอะมาก คดีนี้ถือว่าสมบูรณ์ ฝากผู้หลักผู้ใหญ่หรือใครก็ตามที่ตั้งข้อสังเกตขึ้นมานั้น ตนยินดีส่งพนักงานสอบสวนไปพบ ไม่อยากให้พูดลอยๆ เพราะไม่เกิดผลดีอะไร อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. มอบหมายพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบช.น. มาควบคุมดูแลคดีด้วยตัวเอง

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.ปานศิริสั่งการบก.ป.วิเคราะห์ว่าทำไมผู้ต้องหาจึงประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนกรณีข้อสังเกตของกมธ.ตำรวจที่ว่า ทำไมสภาพศพบริเวณลูกอัณฑะมีการบวม และบริเวณใบหน้ามีร่องรอยอยู่ ประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ที่วิเคราะห์มองว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจเอารถคันที่ก่อเหตุทำแผนฯ ขอยืนยันว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วกองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจพิสูจน์จนครบถ้วนกระบวนการต่างๆแล้ว ถึงได้เอามาทำแผนฯ เพราะฉะนั้นการทำแผนฯไม่มีผลทำให้หลักฐานต่างๆ หมดไป ทั้งหมดที่ทำกันมาขอยืนยันว่า ตำรวจพยายามทำคดีนี้อย่างรอบคอบรัดกุมที่สุดเพื่อตอบสื่อมวลชนได้ ตอนนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำทั้งหมด 51 ปาก ไม่ว่าจะในส่วนที่กทม. พัทลุง สงขลา ต่อจากนี้จะประสานไปยังนายสุวัฒน์ เพื่อเชิญมารับฟังข้อมูลที่ได้สืบสวนตามข้อสังเกตทุกประเด็น หากมีข้อมูลใดที่ติดใจหรือข้อสังเกตเพิ่มก็พร้อมรับฟัง

 ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้ง 13 ประเด็นได้คำตอบครบทุกข้อหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ครบหมดแล้ว แต่บางข้อที่ชี้แจงไปแล้วทั้ง 4 หน่วยหลักครอบคลุม แต่บางประเด็นที่เป็นเนื้อหาสำคัญ อยู่ในสำนวนต้องขอสงวนเอาไว้ ส่วนต้องรายงาน กมธ.หรือไม่ ไม่จำเป็นต้องรายงาน ยืนยันว่าหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดมุ่งไปที่ประเด็นชิงทรัพย์ แต่ไม่ได้ปิดกั้นประเด็นอื่น

 “อย่างที่มีข่าวเมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนได้ไปสอบสวนนายสันติภาพและนายนสุทธิพงศ์ เพิ่มเติมในเรือนจำเรียบร้อยแล้ว ที่มีข่าวปล่อยออกมาว่ามีคนจ้างวาน 2 ล้านบาทอะไรต่างๆ นั้น ไม่มีหรอกครับ เขาไม่เคยจ้างวานอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีคนจ้างวานคงจะบอกไปแล้ว เพราะพ่อแม่ของนายสันติภาพต้องบอกแล้ว เพราะเราก็ดำเนินคดีนี้พ่อแม่ยังติดคุกเลย หากมีคนจ้างวานคงบอกแล้ว หากใครยังติดใจประเด็นส่งมาให้ตรวจสอบได้”ผบช.น. กล่าว

 เมื่อถามถึงการติดตามทรัพย์สินอื่นๆ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ยังพยายามติดตาม ไม่ใช่ไม่ตาม พล.ต.ต.ปริญญานำนักประดาน้ำไปงมตั้ง 3-4 เที่ยว ยังไม่พบ แต่ไม่ใช่ยกเลิก ถ้ามีใครพบตำหนิรูปพรรณพระ โดยเฉพาะพระสมเด็จพระเกศชัยโยในวงการพระเครื่อง เมื่อวานได้ให้วงการพระเครื่องกระจายตรวจสอบ

 ด้านพล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า คาดว่าจะสรุปสำนวนคดีได้ภายใน 1 เดือน แต่อยากชี้แจงว่า สำนวนการสอบสวนที่สรุปแล้ว ไม่ใช่หมายความว่าการสืบสวนจะเลิกไป เพียงแต่หาพยานหลักฐานในชั้นนี้มีเท่านี้ พนักงานสอบสวนก็สรุปเพียงเท่านี้ เป็นเรื่องของสำนวนการสอบสวน แต่ในเรื่องการสืบสวน ผบช.น.สั่งสืบสวนต่อไป ถ้ามีพยานหลักฐานอื่นอีกก็นำมาประกอบการสอบสวนได้อีกภายในอายุความ 20 ปี

 ขณะที่พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ได้รับผิดชอบให้ตรวจสอบห่วงโซ่ของพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ความผิดของผู้กระทำความผิด เป็นประเด็นสำคัญโดยเฉพาะแรงจูงใจเป็นพื้นฐานปกติความต้องการที่เกิดขึ้นจากผู้ต้องหารายนี้ จากห่วงโซ่ที่พนักงานสอบสวนค้นหามาก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุพบเห็นว่ามีหลักฐานทางนิติศาสตร์วิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล เอกสารพยานวัตถุปรากฏชัดขึ้นมา ซึ่งลักษณะของผู้กระทำผิดมีพฤติกรรมตั้งแต่อายุ 18 ปี เป็นเด็กวัยรุ่นหรือเด็กแว้นที่มีลักษณะก้าวร้าว ก่อเหตุอาชญากรรมที่จับได้ตั้งแต่วิ่งราวทรัพย์และกรรโชกทรัพย์ ตลอดจนเข้ามาสู่วงจรการเป็นคนขับรถ จากข้อมูลแหล่งข่าวได้เข้ามาเป็นคนขับรถให้กับผู้บริหารหลายบริษัท และได้กระทำความผิดแบบเดียวกัน โดยมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์มาหลายครั้ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการสอบปากคำผู้บริหารหลายบริษัท มีพฤติกรรมเล่นการพนัน เป็นคนก้าวร้าว กล้าตัดสินใจ และกระทำด้วยตัวเอง ตลอดจนใช้เงินจำนวนมากในการเล่นพนัน นั่นคือสิ่งที่ปรากฏอยู่ในตัวตนของนายสันติภาพ

 “ส่วนเรื่องการเตรียมการนั้น ผู้ต้องหารายนี้เตรียมการอยู่แล้ว เพราะมีวัตถุพยานเตรียมไว้เครื่องไม้เครื่องมือไว้ ตลอดจนการสอบปากคำพยานที่พบเห็น สอดรับกับห้วงเวลาที่ลงมือ ตลอดจนภาพที่ปรากฏจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด ยืนยันว่าเป็นแรงจูงใจจากความต้องการที่จะใช้เงิน และเป็นเด็กรุ่นใหม่กล้าลงมือ กล้ากระทำ ไม่กลัวต่อการกระทำความผิด โดยเฉพาะกลุ่มที่เติบโตจากกลุ่มเด็กแว้น และกล้าเล่นการพนันในจำนวนเงินที่มีมูลค่าสูง ทำให้กล้าลงมือก่อเหตุกระทำผิดต่อเหยื่อเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์”ผบก.ป. กล่าว

 ส่วนพล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า ได้ตรวจสอบสภาพศพทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนกรณีที่ลูกอัณฑะบวมขึ้นมา น่าจะเกิดขึ้นจากการเน่าเปื่อยของศพ ถ้าเป็นลักษณะช้ำก็จะมีเลือดคั่งอยู่ภายใน เบื้องต้นเห็นชัดเจนว่าไม่ใช่การช้ำ แต่เป็นการเน่า เพราะศพที่ตรวจสอบเสียชีวิตมาประมาณ 5 วันแล้ว ส่วนบาดแผลบริเวณหน้าที่สงสัยนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบบาดแผลบริเวณที่อื่นๆ มีรอยช้ำที่ปลายจมูกเพียงนิดหน่อย และเป็นรอยถลอกที่ใบหน้าไม่น่าจะเกิดขึ้นจากการถูกทำร้าย

 ทางด้านพ.ต.อ.ณัฎฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในรถตู้ของผู้เสียชีวิต ได้รับแจ้งให้ไปตรวจก่อนนำรถไปทำแผนฯ ส่วนผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบดีเอ็นเอหรือลายนิ้วมือของกลุ่มบุคคลอื่นๆ นอกจากกลุ่มผู้ต้องหา

 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวว่า ในกรณีวิเคราะห์ว่าผู้ต้องหามีแค่ 2 คนถึงทำได้นั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรก กรณีที่สามารถลงมือได้ 2 คน โดยที่ตัวผู้ตายไม่แย่งปืน จากการสอบสวนและทดลองสาธิตปฏิบัติในรถจริง ยืนยันได้ว่าในวันเวลาเกิดเหตุ เมื่อถึงจุดที่เกิดเหตุตัวนายสันติภาพทำหน้าที่ขับรถ และมีนายสุทธิพงศ์ซุกซ่อนตัวไว้อยู่ด้านหน้า ได้จอดรถบริเวณด้านข้างทางซึ่งเป็นพื้นที่เว้าในถนนลาดพร้าว เมื่อจอดรถแล้วนายสันติภาพได้ใช้อาวุธปืนหันไปจี้นายเอกยุทธแล้วพูดคุยต่อรองกันว่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ ขอให้นายเอกยุทธไม่ขัดขืน ซึ่งนายเอกยุทธยินยอมไม่ขัดขืน จากนั้นได้ให้นายเอกยุทธนั่งหันหลังพร้อมกับเอามือไขว้หลังไว้ ในช่วงนั้นก็จะมีการก้าวออกไปจากห้องคนขับหรือห้องโดยสารแล้วใช้กุญแจมือล็อกไว้ จึงเป็นเหตุผลทำให้นายเอกยุทธไม่สามารถแย่งปืนได้ 

 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ 2 ที่บอกว่านายเอกยุทธไม่หลบหนีโดยการเปิดประตูออกไป จากการตรวจสอบทั้งตัวรถและคำให้การแล้วยืนยันว่า รถคันนี้ถูกล็อกไว้โดยการล็อกเด็ก (Baby lock) ตัวล็อกที่ป้องกันไม่ให้เด็กหล่นออกจากรถ ใช้กุญแจรถเสียบเข้าไปด้านข้างของประตูสไลด์ และประตูนั้นจะสามารถเปิดได้จากจุดผู้ขับเป็นคนปลดล็อก ซึ่งเป็นความประสงค์ของนายเอกยุทธตั้งแต่แรก เพราะไม่ต้องการให้มีคนอื่นขึ้นมาทำร้าย ขณะที่จอดหรือระหว่างขับรถ 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์