ร้องกองปราบเอาผิด ธีรภัทร์ ปล่อย ยามเฝ้าแผ่นดิน ออกช่อง 11

เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ

นายธีรภัทร เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการยามเฝ้าแผ่นดิน

ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันสนับสนุนหรือสมคบคิดในการกระทำความผิด กรณีอนุญาตให้รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ที่ผลิตโดยสถานีโทรทัศน์ ASTV ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ได้

และกระทำการแพร่ภาพข้อมูลข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 มาตรา 5 และมาตรา 10

จากการที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุก่อนลาออกจากตำแหน่งว่า มีรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ดำเนินการในลักษณะที่เอื้อประโยชน์แก่สื่อมวลชนบางรายเป็นการเฉพาะ ซึ่งหมายถึงสื่อของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นางภัทรียา สุมะโน รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ทำหนังสือถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบริษัทไทยเดย์ดอทคอม จำกัด ในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV ซึ่งดำเนินการบริการส่งวิทยุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498

ยังทำหนังสือไปยังกรรมการผู้จัดการบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อขอความร่วมมือดำเนินการตามกฎหมายกับสถานีโทรทัศน์ ASTV รวมทั้งทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เพื่อให้ตรวจสอบการเผยแพร่สถานีวิทยุโทรทัศน์ดังกล่าว

เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งกรมประชาสัมพันธ์ ที่สั่งให้ระงับการให้บริการสื่อสาร ซึ่งคำบรรยายฟ้องเป็นการยืนยัน และยอมรับสารภาพต่อศาลปกครองกลางว่า ASTV ไม่ได้รับอนุญาตให้แพร่ภาพ โดยเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต เพราะฉะนั้นการดำเนินการของนายธีรภัทร์ และนายปราโมช ที่อนุญาตให้ ASTV ผลิตรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ทั้งที่ทราบว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์ ASTV ไม่เคยได้รับอนุญาตให้แพร่ภาพ จึงถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในลักษณะเหมือนกับการรับของโจร

ได้นำหลักฐานเป็นคำให้สัมภาษณ์ของนายธีรภัทร และแผ่นดีวีดีบันทึกภาพรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ที่ผู้ดำเนินรายการยอมรับว่ากระทำผิดกฎหมาย มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เชื่อว่าหลักฐานดังกล่าวสามารถใช้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสามได้ทันที

เพื่อแสดงความโปร่งใสในการบริหารงาน และว่าในสัปดาห์หน้าจะไปยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรี /คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ด้วย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก