ส่ง จิตแพทย์ แจงศาลประกิตเผ่าอาการ ยังไม่เป็นปกติ

ป.เรียก- เปมิกา สอบสวน15มี.ค.หาที่มาอีเฟดรีน


กองปราบฯ ทำหนังสือเรียก "เปมิกา" เข้าให้ปากคำในวันที่ 15 มี.ค.นี้ เพื่อหาที่มาที่ไปของสารอีเฟดรีนในร่างกายของ "ประกิตเผ่า" หลังจากสืบสวนพบอยู่ด้วยกันในคอนโดหรูย่านสะพานควายช่วง 48 ชม. ก่อนที่ "หมอเผ่า" จะถูกส่งตัวเข้ารักษาในรพ.ศรีธัญญา


ขณะที่ ประกิตพันธ์ เย้ยสาวคนสนิทของน้องชาย


ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงก็ควรจะรีบเข้าพบตำรวจ ส่วนคณะกรรมการตรวจวินิจฉัยสรุปผลการตรวจรักษาเพื่อนำไปรายงานศาล ตรงกับ รพ.ศรีธัญญา แพทย์เผยคนไข้น่าจะรักษาตัวต่อ แต่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล ด้านสาธารณสุข เร่งผลักดันกฎหมายสุขภาพจิตออกมาใช้บังคับ

เรื่องราวที่เหมือนกับหนังชีวิต


ของ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวด วิชา แอพพลายด์ฟิสิกส์ ที่ศาลมีคำสั่งให้รักษา อาการป่วยทางจิตในสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจาก น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต นิสิต ปี 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อนสาวคนสนิทของ นพ.ประกิตเผ่า ได้เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น พงส.(สบ3) สน.บางซื่อ ให้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ รพ.ศรีธัญญา ปล่อยตัว นพ.ประกิตเผ่า

เนื่องจาก นพ.ประกิต เผ่า ไม่ได้ป่วยทางจิตแต่อย่างใด


แต่กลับถูก รศ.เพลินจิต ทมทิตชงค์ มารดา นพ.ประกิตพันธ์ ทมทิตชงค์ พี่ชาย และนางอลิสา ทมทิตชงค์ ภรรยา นำตัวเข้ารักษาใน รพ.ศรีธัญญา เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ระหว่างที่ นพ.ประกิตเผ่า เตรียมจะไปจดทะเบียนหย่ากับนางอลิสา ภรรยาที่ที่ทำการอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม


ขณะเดียวกันครอบครัวทมทิตชงค์


ได้เข้าร้องทุกข์กับกองปราบปรามให้ช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับสารอีเฟดรีน (Ephedrine) ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และเป็นสารตั้งต้นของยาบ้า และยาอี ว่าเข้าไปอยู่ในร่างกายของ นพ.ประกิตเผ่า มากกว่าคนปกติถึง 200 เท่าได้อย่างไร ตามที่ "เดลินิวส์" เสนอข่าวไปให้ทราบอย่างต่อเนื่องนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ามาว่า


เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ได้นัดคณะกรรมการตรวจวินิจฉัย รวมทั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประชุมเพื่อตรวจวินิจฉัย นพ. ประกิตเผ่า ตามคำสั่งศาล ซึ่งมีข้อมูลจากทีม สหวิชาชีพต่าง ๆ ที่เตรียมไว้พร้อมแล้ว และหลังจากสรุปผลร่วมกันแล้ว แพทย์ผู้ตรวจรักษาจะไปรายงานผลการตรวจรักษาต่อศาลในเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มี.ค.นี้

นพ.ศิริศักดิ์ กล่าวต่อว่า


เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องพิษวิทยาของสารเคมี จาก ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ ผอ.ศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหา วิทยาลัยมหิดล ที่ได้ตรวจผลทางห้องปฏิบัติการของนพ.ประกิตเผ่า ดังนั้นวันนี้ในการประชุมวินิจฉัยของคณะกรรมการ จึงอาจเรียนเชิญ ศ.นพ.สมิง มาให้ข้อมูลเรื่องวิธีการตรวจสารอีเฟดรีนโดยวิธีต่าง ๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างกัน


และที่ผ่านมาในกรณีดังกล่าว


ทางศูนย์พิษวิทยา ใช้วิธีตรวจแบบไหน การแปลผลตรวจอีเฟดรีนในปัสสาวะและในเลือดที่ถูกต้องเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรง และเป็นหน่วยงานที่ตรวจผลดังกล่าว แต่ถ้าหากศ.นพ.สมิง มาไม่ได้อาจใช้วิธีวิดีโอคอนเฟอ เรนซ์ (VDO Conference) หรือโทรศัพท์ติดต่อ

ต่อมาในตอนบ่ายวันเดียวกัน


คณะแพทย์ของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ประกอบด้วย นพ.ศิริศักดิ์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ฯ พญ.ดวงตา ไกรภัสสพงษ์ นพ.กัมปนารท ตันสิถบุตรกุล แพทย์ผู้ดูแลรักษาพร้อมด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

1.ศ.เกียรติคุณ แพทย์หญิงวันเพ็ญ บุญประกอบ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

2. ศ.นพ.วิทูร อึ้งประพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชและนิติจิตเวช กรรมการกฤษฎีกา

3. ศ.แสวง บุญเฉลิมวิภาส ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญาและกฎหมายการแพทย์ ผอ.ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

นักอาชีวบำบัด นักจิตวิทยา นักสังคมฯ พยาบาล ได้ร่วมประชุมเพื่อวินิจฉัยอาการของ นพ.ประกิตเผ่า ภายในห้องประชุมชั้นที่ 1 อาคารมัชฌิมา ซึ่งเป็นอาคารเดียวกับ นพ.ประกิตเผ่า พักรักษาตัว ทั้งนี้เพื่อนำไปรายงานต่อศาลในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 09.00 น.

คณะกรรมการตรวจวินิจฉัยได้เชิญตัว นพ.ประกิตเผ่า มาเพื่อสอบถามอาการ


โดย นพ.ประกิตเผ่า อยู่ในชุดเสื้อยืดโปโลสีฟ้า กางเกงวอร์ม ซึ่งเป็นชุดเดียวกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเดินลงมาจากชั้นที่ 2 อาคารมัชฌิมา ไปยังห้องประชุมโดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกว่า 10 คน คอยล้อมเพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ


โดยคณะกรรมการตรวจวินิจฉัยอาการใช้เวลาซักถามนานกว่า 2 ชม.


ระหว่างที่ นพ.ประกิตเผ่า เดินกลับไปห้องพักชั้นที่ 2 ยังคงมีเจ้าหน้าที่ห้อมล้อมอยู่เช่นเดิม ขณะที่เดินขึ้นบันได นพ. ประกิตเผ่า เกิดลื่นเสียหลักเกือบจะล้ม แต่เจ้าหน้าที่ต่างกรูกันเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที หลังจากนั้นคณะกรรมการตรวจวินิจฉัยยังคงประชุมกันต่ออีกกว่า 1 ชม. จึงเดินทางกลับโดยไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะสรุปความเห็นเสนอต่อศาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนทราบว่า ช่วง 48 ชม. ก่อนเข้า รพ.ศรีธัญญา


นพ.ประกิตเผ่าได้เดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ หลายที่ด้วยกัน รวมทั้งคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งใกล้สี่แยกสะพานควาย และมีการเดินทางไปต่างจังหวัดด้วย ซึ่ง พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.ป. และพ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการอ้างถึงแล้วโดยให้ตรวจสอบข้อมูลการเข้าออกอาคารจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นหลัก




เนื่องจากเป็นเอกสารหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า


นพ.ประกิตเผ่า ได้เดินทางเข้าออกสถานที่ดังกล่าวจริง และอาจมีพยานรู้เห็นว่า นพ.ประกิตเผ่า เดินทางมาเพียงลำพังหรือมาพร้อมกับบุคคลใดบ้างเพื่อจะได้เป็นแนวทางในการขยายผลเชิญตัวมาสอบสวนต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า


สำหรับบุคคลที่อยู่กับ นพ.ประกิตเผ่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนอกจากคนในครอบครัวทมทิตชงค์แล้วยังมี น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต เพื่อนสาวคนสนิท เป็นคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิด นพ.ประกิตเผ่า ก่อนที่ นพ.ประกิตเผ่า จะถูกนำตัวเข้ารักษาใน รพ.ศรีธัญญา พล.ต.ต. วรศักดิ์ ผบก.ป. จึงให้พนักงานสอบสวนทำหนังสือเชิญ น.ส.เปมิกา มาให้การกับพนักงานสอบสวนในเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่จะถึงนี้ พร้อมกับส่งหนังสือดังกล่าวไปให้ น.ส.เปมิกา รับทราบแล้วในวันเดียวกันนี้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์