คนร้ายขอฟื้นคดีตำรวจจับแพะ

คนร้ายขอฟื้นคดีตำรวจจับแพะ


  วันนี้ (5เม.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)   ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายจารึก หนูแก้ว อายุ 56ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 5 ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช บิดาของนายสุดสาคร หรือจอม หนูแก้ว อายุ 29 ปีนักโทษที่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกา ในความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะโทรมหญิง, ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกก.5 บก.ป.เพื่อขอรื้อฟื้นคดีขึ้นใหม่

เนื่องจากผู้กระทำความผิดที่แท้จริงคือนายจิรายุทธ หรือบอย หนูแก้ว อายุ 26 ปี ลูกชายคนสุดท้อง ไม่ใช่นายสุดสาคร ว่า  นายจิรายุทธพร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ กก.5 บก.ป. เพื่อให้ถ้อยคำในคดีดังกล่าว แต่เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นนั้นถือว่ากระบวนการพิจารณาในศาลสิ้นสุดแล้ว จึงต้องมีการร้องทุกข์และมีการสืบหาพยานหลักฐานใหม่ เพื่อพิสูจน์ว่า ผู้ต้องขังที่ต้องโทษในคดีไม่ใช่ผู้กระทำความผิด  

โดยนายจิรายุทธ ให้การว่า  วันเกิดเหตุตนกับเพื่อน 4-5 คน ได้ร่วมกันกระทำความผิดจริงโดยลงมือข่มขืน น.ส.จุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย แต่ภายหลังตำรวจ สภ.ปากพนัง  ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสุดสาคร พี่ชายตนซึ่งไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด นอกจากนี้ยังให้ผู้เสียหายชี้ตัวก่อนเข้าให้ปากคำ กระทั่งคดีถูกพิจารณาในชั้นศาลโดยพี่ชายก็ต่อสู้คดีมาตลอด  ช่วงที่เกิดเหตุนั้นตนมีอายุเพียง17 ปี จึงไม่กล้าเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ส่วนบิดากับพี่สาว ก็ปล่อยให้ทนายความดำเนินการทั้งหมด ทำให้พี่ชายต้องรับโทษจำคุก 26 ปี 

“ผมรู้สึกผิดและอยากช่วยเหลือพี่ชายเพราะเขาไม่ใช่คนทำผิด จึงตัดสินใจเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.เพื่อให้ปากคำในคดีดังกล่าวและขอให้ทางตำรวจได้พิจารณารื้อฟื้นคดีที่เกิดขึ้นตามขั้นตอนทางกฎหมาย”นายจิรายุทธ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ในส่วนการพิจารณาของพนักงานสอบสวนนั้น เนื่องจากนายจิรายุทธมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีตัวจริง แต่ทางตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที เพราะคดีเดิมนั้นไม่มีการกล่าวหานายจิรายุทธ จึงต้องมีพยานหลักฐานชุดใหม่ถึงจะสามารถแจ้งข้อหาและดำเนินคดีกับนายจิรายุทธได้  

อย่างไรก็ดี สำหรับคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้ แม้ว่าหากภายหลังผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความแล้ว  แต่ทางตำรวจก็ต้องดำเนินการต่อไป  ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้คงดำเนินการตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ โดยสืบหาพยานหลักฐานในคดีใหม่เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้ต้องโทษที่ศาลตัดสินไปแล้วนั้นไม่ใช่ผู้กระทำความผิดที่แท้จริง

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์