โยธาฯ หวั่นอพาร์ทเม้นท์ 7 ชั้นถล่ม แนะรื้อถอนทั้งหลัง

โยธาฯ หวั่นอพาร์ทเม้นท์ 7 ชั้นถล่ม แนะรื้อถอนทั้งหลัง


วิศวกรโยธาจังหวัดปทุมธานี หวั่นอาคารอพาร์ทเม้นท์ 7 ชั้น ถล่ม ชี้ต้องรื้อถอนทั้งหลังเพื่อความปลอดภัย

            สืบเนื่องจากกรณีที่อาคารอพาร์ทเม้นท์คอนกรีตเสริมเหล็กสูง 7 ชั้น ใกล้ลานจอดรถหลังห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต หมู่  8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เกิดทรุดและเอียงตัวตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 31 มีนาคม สร้างความกังวลให้ประชาชนที่พักใกล้เคียง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกถล่มทับ ขณะที่ส่วนราชการสั่งหยุดก่อสร้างเพื่อรอผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบนั้น

            ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ของวานนี้ (1 เมษายน) นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมนางสุภารมย์ โลทะกะ นายกเทศมนตรีเมืองคูคต และนายนเรต ศรีเมือง ผู้อำนวยการกองช่าง พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบอาคารที่ทรุดตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเหล็กมากั้นรอบบริเวณพร้อมปิดป้ายประกาศเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า และติดแผ่นป้ายคำสั่งระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายอาคาร ไว้ที่ทางเข้าตัวอาคารอพาร์ทเม้นท์ของบริษัท ดอนเมือง แกรนด์ พลาซ่า จำกัด เจ้าของอาคาร

            ทั้งนี้ การก่อสร้างในครั้งนี้ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เลขที่ 164/2552 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2552 โดยเป็นใบอนุญาตก่อสร้างอาคารพักอาศัยแบบรวม (อพาร์ทเม้นท์) 7 ชั้น รวม 77 ห้อง เมื่อตรวจสอบสภาพตัวอาคารมีร่องรอยแตกร้าวมากขึ้น โดยเฉพาะที่ชั้น 1 ยุบตัวลงไปลึก 1-1.5 เมตร

            นายอารัต เมืองจร วิศวกรฝ่ายโยธาธิการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าอาคารเอียงตัวไปมากจนเกรงว่าจะพังถล่มลงมา ซึ่งอาจจะต้องรื้อถอนอาคารทั้งหมด โดยจะเร่งตามตัววิศวกรก่อสร้าง ผู้รับเหมา รวมทั้งการอนุญาตก่อสร้าง และผู้อนุมัติการก่อสร้างของเทศบาลเมืองคูคตมาสอบถามเพื่อหาสาเหตุการทรุดตัว ซึ่งอาคารดังกล่าวสร้างมาเกือบ 1 ปีแล้ว และสร้างเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 เหลือเพียงปูกระเบื้อง ทาสี และตกแต่งภายใน

           
ด้าน นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาจังหวัดปทุมธานีเข้าตรวจสอบข้อมูล และเก็บรวบรวมหลักฐานรอบที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาดูประกอบกับแบบแปลนการก่อสร้างที่มีการขออนุญาตกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนที่อยู่ใกล้กับตัวอาคารออกนอกพื้นที่ และห้ามมิให้ใช้ถนนเส้นทางด้านข้างตัวอาคาร เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปได้ว่าตัวอาคารจะถล่มลงมาหรือไม่

            ต่อมา เวลา 14.00 น. ดร.ธเนศ  วีระศิริ เลขาธิการ วสท. พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญนำเครื่องสแกนเลเซอร์ 3 มิติ เข้าวัดค่าความเอียง พบตัวอาคารเอียงไปด้านทิศเหนือ 6 องศา มีการทรุดตัวของค่าปกติของตัวอาคาร 3 เมตร สาเหตุเกิดจากการรับน้ำหนักบรรทุกที่เกิดจากการเยื้องตำแหน่งของเสาเข็ม หรือเสาเข็มรับน้ำหนักได้ไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดจากการคำนวณจำนวนเสาเข็มรับน้ำหนักของโครงสร้างผิดพลาด

            สำหรับตัวอาคารมีความเอียง 6 องศา แต่ตัวอาคารสูง 7 ชั้น ทำให้ดูแล้วเกิดความโน้มเอียงมากขึ้น ทั้งนี้ ตนคาดว่าอาจจะเกิดจากการบกพร่องระหว่างก่อสร้าง ถ้าหากต้องการความละเอียดถึงสาเหตุที่แท้จริงอาจต้องขุดดินลงไปดูถึงฐานรากของตัวอาคารจึงจะบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งเจ้าของอาคารสามารถแก้ไขได้โดยการยกอาคารให้ตรง แต่ค่าใช้จ่ายอาจสูงเทียบเท่ากับการสร้างใหม่ ซึ่งอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของอาคารเอง แต่การสร้างทุบสร้างใหม่อาจสร้างความมั่นใจให้ผู้อยู่อาศัยได้มากกว่า

            ดร.ธเนศ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบภายในตัวอาคารอย่างละเอียดพบว่า โครงสร้างหลักเสาและคานยังสมบูรณ์ดีอยู่ แต่การเคลื่อนของข้อต่อระหว่างพื้นกับคานมีปัญหา จึงได้ให้นายนเรตเฝ้าดูว่า ตัวอาคารเอียงเพิ่มหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายกับประชาชนที่พักอาศัยใกล้เคียง

            นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการก่อสร้างอาคารพักอาศัยรวมดังกล่าวเป็นเพียงการก่อสร้างเฟสแรกคือ 2 อาคาร โดยตามแบบที่ยื่นปลูกสร้างต่อกองช่างเทศบาลเมืองคูคต มีถึง 10 อาคาร บนเนื้อที่ 4,042 ตารางเมตร แต่ละอาคารสูง 7 ชั้น มีห้องพักอาคารละ 77 ห้องให้เช่าพักอาศัย ส่วนผู้รับเหมาคือบริษัท เจริญโชคก่อสร้าง แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มีนายภูวดล ยิ้มประเสริฐ (สย.3461) ควบคุมการก่อสร้าง และมีนายสุวิชย์ ชูสวัสดิ์ เป็นสถาปนิก (สสส.945)


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์