มลภาวะในเอเชียทำให้พายุในแปซิฟิคยิ่งรุนแรง

ทำให้พายุในมหาสมุทรแปซิฟิคทวีความรุนแรงมากขึ้นแอจส่งผลกระทบไปไกลกว่านั้น

ผลวิจัยที่นำออกเผยแพร่ในเอกสารแนวทางของสำนักงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐฯ

ซึ่งจัดทำร่วมกันโดยหลายหน่วยงานของสหรัฐฯ และนำออกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า

ระดับมลภาวะที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเอเชียช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา จนทำให้เกิดเป็นเมฆหมอกที่เกิดจากการนำพาความร้อน กำลังเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิค และอาจช่วยอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงได้เกิดพายุฝนฟ้าคนองรุนแรงผิดปกติ ในมหาสมุทรแถบนั้นในช่วงฤดูหนาว

มลภาวะที่เกิดจากมือมนุษย์ ส่งผลกระทบต่อแนวทางพายุในมหาสมุทรแปซิฟิค และอาจเกิดผลกระทบไกลกว่านั้นด้วย

เพราะพบว่า พายุในแปซิฟิคนำอนุภาคของมลภาวะจากเอเชีย ไปยังชายฝั่งตะวันตกของแคนาดา, สหรัฐฯ และทั่วทวีปอเมริกา รวมทั้งไปยังส่วนอื่นๆของโลก

เมฆหมอกที่เกิดจากการนำพาความร้อนในแถบตอนเหนือของแปซิฟิคเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 20-50 ในช่วงปี 2537-2548 เมื่อเปรียบเทียบกับทศวรรษก่อนหน้านั้น

และคณะนักวิจัยเชื่อว่า

เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพายุรุนแรงขึ้นในพื้นที่แถบนั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆของสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอุณหุภูมิที่สูงขึ้นของน้ำทะเล หรือปรากฏการณ์ "เอล นิโญ่"

หรือ นาซ่า กับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาจูเซ็ทส์ และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในเมืองซานดิเอโก้ ภายใต้การนำของศาสตราจารย์เหรินอี้ จาง แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส เอ แอนด์ เอ็ม

ผลวิจัยสรุปว่า

ปัญหาทั้งหมดเกิดจากสภาพที่เลวร้ายมากขึ้นของมลภาวะในเอเชีย การที่เอเชียหันมาเป็นสังคมเมืองและเป็นประเทศอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนกับอินเดีย

ซึ่งมีประชากรมากสุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก

ส่งผลให้ในบรรยากาศ มีการรวมตัวกันมากขึ้นของหมอกควัน ซึ่งประกอบด้วยไซเฟอร์กับเขม่าที่ถูกขับออกมาในระหว่างการเผาเชื้อเพลิงประเภทฟอสซิล

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: