แพทย์ชนบทขู่หยุดงานสงกรานต์ บีบ สธ. เบรกปรับเบี้ยทุรกันดาร

แพทย์ชนบทขู่หยุดงานสงกรานต์ บีบ สธ. เบรกปรับเบี้ยทุรกันดาร


  กลุ่มแพทย์ชนบท ขู่ หยุดงานช่วงสงกรานต์ บีบ สธ. ยกเลิกการปรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายหัวในพื้นที่ทุรกันดารใหม่ ชี้ถูกตัดเบี้ยเลี้ยงเหี้ยน ด้าน สธ. แจงเบี้ยไม่ลด แต่จ่ายตามภาระงาน ยันเดินหน้าเปลี่ยนแน่

          เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 กลุ่มแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) จำนวนประมาณ 150 คน ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดในปริมณฑล, ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สวมชุดดำมารวมตัวกันหน้ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเรียกร้องและคัดค้านที่ สธ. จะปรับอัตราค่าเหมาจ่ายรายหัวพื้นที่ทุรกันดาร เป็นการจ่ายตามภาระงาน (P4P)

          ทั้งนี้ ทางกลุ่มแพทย์ชนบทได้พยายามจะขึ้นไปยื่นหนังสือในห้องประชุมที่กำลังมีการ ประชุมในเรื่องดังกล่าวอยู่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามไว้ แต่ในที่สุดแล้ว กลุ่มแพทย์ชนบทก็สามารถผลักประตูเข้าไปแล้วยื่นหนังสือให้กับ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ถึงห้องประชุมได้สำเร็จ โดยเรียกร้องให้ สธ. ยกเลิกการใช้อัตราเบี้ยเหมาจ่ายใหม่

          โดย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ในฐานะแกนนำของกลุ่ม ระบุว่า การ ที่ สธ. จะปรับอัตราค่าเหมาจ่ายรายหัวใหม่นั้นจะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติ งานใน รพช. ถูกตัดเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายตามพื้นที่ในพื้นที่ทุรกันดาร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทุรกันดารนั้นจำเป็นต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อ ใช้เป็นแรงจูงใจให้บุคลากรทางการแพทย์ลงมาทำงาน แต่ สธ. กลับมาเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า จะมีผลประโยชน์ในทางธุรกิจแอบแฝง เพื่อเอื้อภาคเอกชนในการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 หรือไม่ เพราะหลังจากเปิดประชาคมอาเซียน ภาคเอกชนจะสามารถดึงแพทย์เข้าไปทำงานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากค่าตอบแทนส่วนนี้หายไป จึงขอท้าทาย สธ.ให้ประกาศดำเนินการเรื่องนี้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2556 เลย ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงปี 2557 เพื่อจะได้เห็นผลกระทบ

          นพ.เกรียงศักดิ์ ยังระบุอีกว่า
หาก สธ. ยังยืนกรานจะเดินหน้าในเรื่องดังกล่าว วันที่ 1 เมษายนนี้ กลุ่มแพทย์ชนบทจะนัดหารือกันเพื่อให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์หยุดงานใน ช่วงวันสงกรานต์ เพื่อไปรักษาเยียวยาจิตใจตนเอง เพราะถูก รมว.สธ. ดูถูกว่าการทำงานและรับค่าตอบแทนที่ผ่านมาเป็นการกระทำที่ไม่มีศักดิ์ศรี

          ขณะที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า การ ปรับเปลี่ยนเงินค่าตอบแทนนั้นยังใช้วงเงินเท่าเดิม คือ 26,000 ล้านบาท แต่จะเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินแทน คือ พื้นที่ทุรกันดารยังได้รับเท่าเดิม แต่พื้นที่ปกติ จะกำหนดให้จ่ายเป็นค่าตอบแทนจากภาระงาน หรือ P4P (Pay for Performance) แทน เบื้องต้นได้จัดทำข้อเสนอ 3 ระยะ แบ่งเป็น ระยะ 1 เริ่มวันที่ 1 เมษายน 2556, ระยะ 2 วันที่ 1 ตุลาคม 2556 และระยะที่ 3 วันที่ 1 ตุลาคม 2557 โดยจะปรับพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่ทุรกันดารให้เป็นพื้นที่ปกติ เพราะปัจจุบันพบบางพื้นที่ไม่ทุรกันดารตามสภาพความเป็นจริง เช่น ใกล้เขตเมือง ก็จะได้รับเงินแบบ P4P แทน ส่วนพื้นที่ที่ยังคงมีความลำบาก ขาดแคลน ก็จะยังคงอัตราเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย และเพิ่มการจ่ายแบบ P4P และจะพิจารณายกระดับโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลบางพื้นที่ให้เป็น รพท. เช่น ยะลา นราธิวาส เป็นต้น

          ด้าน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ไม่ติดใจเรื่องนี้ เพราะทางกลุ่มแพทย์ชนบทอาจจะยังไม่เข้าใจ จึงต้องให้ทางปลัดไปช่วยชี้แจงอีกทาง ส่วนเรื่องที่แพทย์จะไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนแทนนั้น จริง ๆ อยากให้มองเรื่องค่าตอบแทนเป็นน้ำใจดีกว่า เพราะ สธ. จ่ายค่าตอบแทนไม่ได้มาก แต่การที่แพทย์จะอยู่ในระบบนั้นถือเป็นเรื่องของน้ำใจ หากมีใจจะอยู่ช่วย ต่อให้ที่ไหนให้เงินมากกว่านี้อีก 3 เท่า แพทย์ก็ไม่ไป

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์