ดีเอสไอคาดเม.ย.นี้ สรุปสำนวนคดีฮั้วประมูลคดีโรงพัก 396 แห่ง ส่งอัยการสั่งฟ้องผู้บริหารพีซีซีฯ

ดีเอสไอคาดเม.ย.นี้ สรุปสำนวนคดีฮั้วประมูลคดีโรงพัก 396 แห่ง ส่งอัยการสั่งฟ้องผู้บริหารพีซีซีฯ


เมื่อวันที่  10 มีนาคม พ.ต.ท.ถวัล  มั่งคั่ง  ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีฉ้อโกงผู้รับเหมาและความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) ของบริษัทบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์  แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ในโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า
ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อกับบริษัทที่เข้ารับประมูลร่วมกับบริษัทพีซี ซีฯ 4 ราย ว่าในราคาที่เคาะครั้งสุดท้ายของบริษัทพีพีซีฯ ทางบริษัทจะดำเนินการได้หรือไม่

โดยให้แจกแจงอย่างรายละเอียด รวมทั้งเหตุในการสู้ราคาครั้งสุดท้ายของแต่ละบริษัท อีกทั้งยังรองหนังสือจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประเด็นเรื่องการส่งมอบพื้นที่ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ตรงตามที่ผู้บริหารพีซีซีฯให้การหรือไม่  นอกจากนี้ยังรอเอกสารทางการเงิน ที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล มาตรา 8 และวันพรุ่งนี้(  11 มี.ค.)คาดว่านายพิบูลย์จะยังคงเดินทางมายื่นคำร้องให้ถอนอายัดบัญชี


พ.ต.ท.ถวัล ยังกล่าวว่า ในประเด็นความผิดตามพ.ร.บ.ฮั้วประมูล นั้นนายพิบูลย์  อุดมสิทธิกุล ผู้บริหารบริษัท พีซีซีฯ ได้ขอเวลาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม โดยทางพนักงานสอบสวนได้กำหนดระยะเวลา  20 วัน หลังจากพนักงานสอบสวน จะรวบร่วมเอกสารหลักฐาน คำให้การของผู้ต้องหา พยาน


ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถสรุปสำนวนส่งอัยการเมื่อไหร่ พ.ต.ท.ถวัล กล่่าวว่า หากไม่มีข้อติดขัด คาดว่าจะสรุปสำนวนคดีความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล มาตรา 8 ของบริษัทพีซีซีฯ เสนอให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องตามขัั้นตอน ได้ประมาณเดือนเมษายนนี้   


ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การตรวจสอบการก่อสร้างโครงการโรงพักจำนวน 396 หลัง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ดีเอสไอรับผิดชอบในหลายส่วน ส่วนแรก ที่มีการสรุปสำนวนส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ช.) คือความผิดเกี่ยวข้องกับข้าราชการเมืองในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157  และความผิดตามพ.ร.บ.ฮั้วประมูล มาตรา11 ,12, 13  แต่ระหว่างนี้ดีเอสไอได้ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อ สร้างโรงพัก ในฐานความผิดฉ้อโกงผู้รับเหมาซึ่งหากมีการเจตนาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายให้กับ ผู้เสียหายทั้ง20 ราย ได้เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย ผู้เสียหายก็สามารถมายื่นถอนการร้องทุกข์ เพื่อยุติเรื่องเป็นรายได้  


นายธาริต กล่าวต่อว่า ส่วนคดีความผิดอาญา ตามกฎหมายฮั้วประมูล มาตรา 8 ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ในหลายมติ ทั้งพยานหลักฐานเอกสาร พยานบุคคล  และเส้นทางการเงิน อีกทั้งคดีดังกล่าวได้เรียกผู้้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อย ดังนั้นขั้นตอนหลังจากนี้ดีเอสไอจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และทำหนังสือสอบไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบถามเรื่องความเสียหายที่ทางตร.ได้รับว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เพื่อพยักงานสอบสวนจะได้สรุปไว้ในสำนวน ตามวรรค2 ของมาตรา 8 ของพ.ร.บ.ฮั้วประมูล ทั้งนี้ เป็นหน้าที่ของทางตร.ที่จะพิจารณาขอบเขตค่าเสียหายที่ได้รับจากกรณีดังกล่าว ดีเอสไอ จะไม่เข้าไปก้าวก่าย เช่นเดียวกับการแจ้งความคดีฉ้อโกง ของทางตร.


"ทุกคดีที่เกี่ยวข้องโครงการก่อสร้างโรงพักตำรวจ จะเกี่ยวพันสอดคล้องกันทัั้งหมด หลักฐานในอีกจะเป็นประโยชน์และเพิ่มความหนักแน่นให้อีกคดี และเชื่อว่าเรืื่องนี้จะเกี่ยวพันกับอีกหลายส่วน หลายคนอาจจะต้องรับผิดชอบ กับความเสียหายที่เกิดขึ้น" นายธาริต กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์