คดีที่6กระชับพท.ซ้ำรอยคดีลุงบุญมี

คดีที่6กระชับพท.ซ้ำรอยคดีลุงบุญมี

'คดีที่6กระชับพื้นที่ปี53 ซ้ำรอย'คดีลุงบุญมี'ไม่ชัดใครยิง 

สุดท้ายศาลอาญา  ก็มีคำสั่งชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ  เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ดุสิต ซึ่งถูกกระสุนปืนเสียชีวิตในช่วงที่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ในเหตุการณ์กระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ในวันที่ 10 เม.ย.53 บริเวณราชดำเนิน - แยกคอกวัว ว่า " ไม่แน่ชัดว่าผู้ใดเป็นผู้ลงมือกระทำ"

จากการไต่สวนได้ความว่า ภายในสวนดุสิต มีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 150 นาย ที่ได้รับคำสั่งดูแลพื้นที่ระหว่างสวนสัตว์ดุสิตและรัฐสภา โดยระหว่างช่วงเกิดเหตุมีเสียงปืนดังขึ้นจากฝั่งรัฐสภาและมีเสียงตะโกนแจ้งว่า “ มันมาแล้ว ” เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้หมอบลงกับพื้น

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์วิถีกระสุน ก็ยังเบิกความเกี่ยวกับวิถีกระสุนได้เพียงกว้าง ๆ ว่า ยิงมาจากด้านหลังทะลุด้านศีรษะ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่ากระสุนนั้นยิงมาจากจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารนอนหมอบอยู่

 และร่องรอยกระสุนที่พบตามต้นไม้ยังทำให้สันนิษฐานได้ว่าวิถีกระสุนจากการยิงอาจเกิดขึ้นได้หลายจุด ซึ่งเป็นได้ด้วยว่าภายในสวนสัตว์ดุสิต "อาจมีบุคคลอื่นที่มีอาวุธปืนอยู่ด้วย"

คำพิพากษาของศาลแสดงให้เห็นว่า ใน "เหตุการณ์ 10เมษาฯ53 " ไม่ใช่มีเพียงเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารเท่านั้นที่ใช้อาวุธปืน แต่มีการใช้อาวุธปืนจากฝ่ายอื่นเช่นกัน

คดีนี้ถือเป็นสำนวนที่ 6 จากทั้งหมดกว่า 20 ราย ที่ศาลจะมีคำสั่งชี้เกี่ยวกับการเสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุม นปช. เมื่อปี 2553

คำสั่งชันสูตรพลิกศพของศาลในคดีการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ ซึ่งเป็น "คดีที่ 6" จึงใกล้เคียงกับ"คดีที่ 5"   ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ทำคำสั่งชี้เหตุการเสียชีวิตของนายบุญมี เริ่มสุข หรือลุงบุญมี อายุ 70 ปี  ซึ่งร่วมในเหตุการณ์ชุมนุมและถูกยิงเมื่อวันที่ 14 พ.ค.53 ว่า ตายจากการติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งถูกยิงเข้าบริเวณช่องท้อง ด้วยกระสุนปืนขนาด .223 ขณะอยู่ที่ ถ.พระราม 4 (ย่านบ่อนไก่)โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ เพราะมีการยิงตอบโต้กันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและทหาร และหัวกระสุนที่ลุงบุญมี ถูกยิงคือ .223 นั้น นอกจากทหารใช้กระสุนขนาด .223 แล้ว กลุ่มคนที่ปะปนอยู่ในกลุ่ม นปช. ก็ใช้กระสุนขนาด .223 เช่นกัน

คำสั่งดังกล่าวกลายเป็นชนวนวิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะเป็นสำนวนแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีความเห็นต่างจากอีก 4 สำนวนที่เป็นไปแนวทางเดียวกันว่า เกิดจากกระสุนที่มาจากทิศทางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ตามประกาศ คำสั่ง ศอฉ.
 
โดย 4 สำนวนแรก มีรายละเอียดดังนี้

 -วันที่ 17 ก.ย.55  ศาลอาญาได้ทำคำสั่งการชันสูตรศพ สำนวนแรก คือนายพัน คำกอง อาชีพขับรถแท็กซี่ ชาวยโสธร ว่าผู้ตายเป็นใคร  ตายที่ไหน  เมื่อใด และถึงเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150

 โดยศาลไต่สวนพยานที่ได้จากอัยการโจทก์ ผู้ร้อง และทนายความญาติผู้ตายแล้ว รับฟังได้ว่า ผู้ตายชื่อนายพัน คำกอง เสียชีวิตหน้าสำนักงานขายคอนโดมีเนียมไอดีโอ ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.เมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 เวลากลางคืน เหตุและพฤติการณ์ที่ตายเกิดจากการถูกลูกกระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 มม. จากอาวุธปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ซึ่งเจ้าพนักงานทหารร่วมกันยิงไปที่รถตู้หมายเลขทะเบียน ฮค-8561 กทม. ที่มีนายสมร ไหมทอง เป็นผู้ขับ แล้วลูกกระสุนปืนไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตายในขณะเจ้าพนักงานทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบปิดล้อมพื้นที่ควบคุมตามคำสั่ง ศอฉ.

ซึ่งกรณีของนายพัน กลายเป็นจุดเริ่มต้น ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตั้งสำนวนกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายก ฯ และ ผอ.ศอฉ. “ ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาและเล็งเห็นผล ”   
 จากนั้นไม่นานภายในปี 2555 ทั้งศาลอาญา และศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็ทำคำสั่งการชันสูตรศพบุคคลที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ กำชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ทยอย ออกมาอีก 3 ราย

 “นายชาญณรงค์ พลศรีลา ” และ “ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ ” หรือน้องอีซา อายุ 14 ปี ที่มีสำนวนในศาลอาญา และ “ นายชาติชาย ชาเหลา ” ชาวสุรินทร์ ที่มีสำนวนในศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลทั้งสองแห่ง มีคำสั่งไปแนวทางเดียวกันว่า การเสียชีวิต เกิดจากกระสุนที่มาจากทิศทางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ตามประกาศ คำสั่ง ศอฉ.

 แต่พอมาถึง 2 คดีหลังสุด  คดีกลับพลิกไปในอีกทางหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและในฐานะ ผ.อ. ศอฉ. นำเอา 2 คดีหลังนี้ไปต่อสู้ในคดีที่ทั้งสองถูกดีเอสไอดำเนินคดีได้

 เพราะคดีการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ เป็น "คดีที่สอง" แล้วที่ศาลชี้ว่า การมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่ปี 53 ไม่ใช่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการกระชับพื้นที่การชุมนุมตามคำสั่งของ ศอฉ. แต่ฝ่ายเดียว     

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์