ธ.ออมสินให้กู้ ครูมีวิทยฐานะ

"เตรียมเงินให้ครูกู้ 2 หมื่นล้านบาท"


จากปัญหาครูมีหนี้สินล้นพ้นตัว จนทำให้เกิดความเครียด ส่งผลเสียต่อการศึกษาของเด็กเพราะประสิทธิภาพในการสอนหนังสือลดลง ทำให้กระทรวงศึกษาธิการต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือล้างหนี้ให้บางส่วนนั้น ทั้งนี้ ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 15.30 น. วานนี้ (27 ก.พ.) มีพิธีลงนามระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและธนาคารออมสิน เพื่อบันทึกข้อตกลงในการพัฒนาชีวิตครูสำหรับครูที่ได้รับเงินวิทยฐานะ

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดสรรเงินวิทยฐานะให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จึงเห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการควรนำเงินในส่วนดังกล่าว มาใช้ในการแก้ปัญหาหนี้สินครู จึงมีพิธีลงนามในวันนี้ เพราะการแก้ปัญหาหนี้สินครูนั้น กระทรวงศึกษาธิการ

จะดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ ขณะที่นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ครูที่จะเข้ากู้เงินจากโครงการนี้จะต้องเป็นครูที่ได้รับวิทยฐานะเท่านั้น โดยธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ตามเงินวิทยฐานะที่ได้รับ มีระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 7.75 ต่อปี โดยธนาคารเตรียมวงเงินรองรับให้ครูได้กู้ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท

"เกิดอาการเครียดทำให้ประสิทธิภาพในการสอนลดลง"


นายบำเรอ ภานุวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา กล่าวว่า มีครูที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการประมาณ 3.7 แสนคนทั่วประเทศ จากทุกสังกัด สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินครูนั้น นายวรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการ ที่ดูแลในเรื่องนี้ ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. สำรวจข้อมูลครูที่เป็นหนี้ใหม่ทั้งหมด เพื่อต้องการทำข้อมูลปัจจุบัน

และยังมอบให้ สกสค. ตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาครูในเรื่องการเงิน หรือคลินิกการเงิน ให้ครูโทรศัพท์เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการเงิน ซึ่งในวันที่ 1 มี.ค. จะมีการเปิดศูนย์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยนายวรากรณ์จะมารับโทรศัพท์ให้คำปรึกษาครู ตั้งแต่เวลา 09.30-12.00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2282-3000 ขณะเดียวกัน สกสค. ก็จะเดินสายให้คำปรึกษาเรื่องการเงินสำหรับครู โดยจะเริ่มที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นแห่งแรก เพราะเป็นจังหวัดที่มีครูเป็นหนี้ในระดับสาหัส คือมากกว่าร้อยละ 95 ของเงินเดือน มากที่สุดในประเทศถึง 546 ราย จากจำนวนครูที่เป็นหนี้ในระดับสาหัสทั่วประเทศ 12,588 ราย

จำนวนมูลหนี้ของครูที่เป็นหนี้สาหัส สูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาท นายวรากรณ์จึงต้องการเร่งแก้ปัญหาให้ครูกลุ่มนี้ก่อน เพราะหากไม่รีบช่วยครูในกลุ่มนี้จะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมักจะเกิดอาการเครียด จนหาทางออกที่ผิดๆ โดยในช่วงกลางปี 2549 มีครูที่จังหวัดบุรีรัมย์ฆ่าตัวตาย เพื่อต้องการนำเงินจากโครงการสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ช.พ.ค. ที่เมื่อสมาชิกเสียชีวิตจะได้รับเงินประมาณ 600,000 บาท มาใช้หนี้

และเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีครูที่จังหวัดตราดผูกคอตาย เพราะเครียดปัญหาหนี้สิน รวมทั้งครูที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พยายามกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อนำเงิน ช.พ.ค. มาใช้หนี้เช่นกัน แต่มีคนเห็นก่อน จึงพาไปล้างท้องได้ทัน และ ผอ.สกสค. จ.นครศรีธรรมราช ได้พามาหาตน ซึ่งตนได้ทำหนังสือไปยังธนาคารออมสิน ขออนุมัติให้ปล่อยเงินกู้ให้กับครูคนดังกล่าวไปแล้ว ขณะที่ครูที่เป็นหนี้บางรายไม่มีที่อยู่ เพราะถูกธนาคารฟ้องยึดทรัพย์ เนื่องจากกู้เงินธนาคารไปแล้วแต่ไม่มีเงินไปใช้หนี้ธนาคาร นายบำเรอกล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์