´ศรีธัญญา´ ยัน ´ประกิตเผ่า´ ป่วยทางจิตชนิดหวาดระแวง

ผอ.ศรีธัญญา ออกแถลงยัน "นพ.ประกิตเผ่า" ป่วยทางจิตจริง! ชนิดหวาดระแวง แจงมีอาการเพ้อคิดว่ามีเวทมนต์ อาจทำร้ายผู้อื่นได้ ปัดข้อกล่าวหา รพ.ฉีดยาให้เป็นบ้า ย้ำไม่มีทางทำแน่ เผยตรวจพบสาร "เอฟริดีน" ส่งผลต่อจิตประสาทเทียบเท่ายาบ้า

นพ.สุจริต สุวรรณชีพ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต พร้อมด้วย นพ.ประกิตพันธุ์ ทมชิตชงค์ พี่ชาย นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบัน "แอพพลายด์ฟิสิกส์" แถลงข่าวกรณีที่มีข่าวว่า

นพ.ประกิตเผ่า ถูกนำตัวมารักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาทางจิต โดยมีผู้ที่อ้างตัวว่าแฟนสาวระบุว่า นพ.ประกิตเผ่า ถูกหลอกให้มารักษาตัว และถูกฉีดยาทุกวัน หากให้อยู่ในโรงพยาบาลนานกว่านี้อาจจะเป็นโรคจิตก็ได้

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ญาติได้พาตัว นพ.ประกิตเผ่า เข้ามารับการรักษาที่ รพ.ศรีธัญญา เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการซึม หวาดระแวง คิดว่าตัวเองมีอิทธิฤทธิ์ พกพาอาวุธ สวมเสื้อเกราะ จึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวผู้ป่วย ญาติ และบุคคลอื่น

ซึ่งผู้ป่วยได้รับการตรวจและรักษาโดย นพ.ไพฑูรย์ สมุทรสินธุ์ จิตแพทย์ 9 ประจำโรงพยาบาล ซึ่งสรุปความเห็นว่า ผู้ป่วยมีอาการหลงผิด คิดว่าตัวเองมีเวทมนตร์ อำนาจพิเศษที่สามารถทำร้ายคนอื่นได้ และที่ผ่านมาตัวเองถูกคุณไสย จึงเกิดอาการหวาดกลัวคนจะมาทำร้าย

นพ.ไพฑูรย์ จึงลงความเห็นว่า เป็นผู้ป่วยทางจิต ชนิดหวาดระแวง อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่นด้วย

และมีการฉีดยาให้ทุกวันอาจจะบ้าได้นั้น ผมขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวแน่นอน และเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ด้วย จะมีก็แต่ในหนังเท่านั้น ไม่มีใครมาฉีดยาทีละนิดให้เป็นบ้าได้ และไม่มีใครแม้แต่จะคิดทำแบบนั้น

โดยเฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐที่มีอายุยาวนานถึง 65 ปี แล้ว และได้รับความเชื่อถือมาโดยตลอด" นพ.เกียรติภูมิกล่าว และยืนยันว่า ก่อนรับตัวผู้ป่วยเข้ามารักษาได้ทำตามมาตรฐานทางวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม และตามกฎหมายทุกประการ

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า หลังจากที่รับตัวเข้ามาก็ได้เจาะเลือด และตรวจปัสสาวะ พร้อมทั้งทดสอบทางจิตวิทยา ก็ให้ผลสอดคล้องกับความเห็นของจิตแพทย์ที่ระบุว่าผู้ป่วยมีปัญหาในการคบคุมอารมณ์และพฤติกรรม เป็นผู้ป่วยโรคทางจิต

จึงได้ให้การรักษาด้วยการให้ยา และพักรักษาตัวในห้องพิเศษ ส่วนสาเหตุการเป็นโรคทางจิตนั้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่นอน แต่ทางโรงพยาบาลตรวจพบ เอฟริดีน (Efridine) ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทในปัสสาวะมากกว่าคนปกติถึงกว่า 200 เท่า ซึ่งต้องพิสูจน์ต่อว่าสารดังกล่าวมาจากไหน

ก่อนหน้านี้มีตำรวจนายหนึ่งเข้ามาขออนุญาตตนเพื่อขอพบผู้ป่วย ซึ่งตนก็ถามไปว่าใครแจ้งให้ทราบ ซึ่งเมื่อทราบว่าคนที่มาขอพบไม่ใช่ญาติ และไม่มีเอกสารหนังสือ และหมายค้นใดๆ มาด้วย ตอนแรกตนจึงไม่ให้เข้าพบ แต่สุดท้ายก็มีการตรวจค้นกัน

ซึ่งตนก็ไม่ได้ถือสาอะไร ส่วนที่ นพ.ไพฑูรย์ ไม่ได้มาร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างลาพักร้อน แต่อย่างไรก็ตาม นพ.ไพฑูรย์ ได้ทราบเรื่องแล้ว และให้ตนแถลงตามบันทึกที่ได้ตรวจรักษาไปก่อนหน้านี้

นพ.สุจริต กล่าวว่า สารเอฟริดีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทคล้ายๆ กับสารแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ซึ่งหากเสพเข้าไปมากๆ ก็อาจจะทำให้เป็นบ้าได้ จึงเป็นสารต้องห้ามที่ถูกควบคุมโดยรัฐ และไม่น่าประหลาดใจหากได้รับสารเอฟริดีนเข้าไปแล้วมีอาการทางจิต

ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีอาการหวาดระแวงกลัวคนจะมาทำร้าย เปรียบได้กับลูกระเบิดเวลา เมื่อไม่มีอาการก็จะเหมือนคนปกติ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีอาการหวาดระแวงมากๆ จนถึงจุดระเบิดก็จะทำร้ายผู้อื่น เพราะเกรงว่าผู้อื่นจะทำร้ายตนเอง คล้ายๆ กับกรณีของผู้ป่วย ที่ใช้มีดไล่แทงนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง

จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์