‘เหลิม’พอใจถกดับไฟใต้นายกฯ มาเลย์ - โต้ภาพเมาต่างแดน แค่จิบไวน์กับเพื่อนซี้

‘เหลิม’พอใจถกดับไฟใต้นายกฯ มาเลย์ - โต้ภาพเมาต่างแดน แค่จิบไวน์กับเพื่อนซี้


‘เหลิม’พอใจถกดับไฟใต้นายกฯ มาเลย์ - โต้ภาพเมาต่างแดน แค่จิบไวน์กับเพื่อนซี้

 เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียและได้พบหารือกับนายนาจิบ นาซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่า ตนดีใจที่นายกรัฐมนตรีให้ความกรุณาตนและคณะเป็นอย่างมาก เพราะเดิมให้เวลาพบเพียง 15 นาที แต่ในการพบหารือจริง 1 ชั่วโมง 5 นาที ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในหลายเรื่อง และยังมีโอกาสพบและหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ อีกนานประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที และอีกท่านหนึ่งที่มีความสำคัญมาก คือ ได้พบหารือกับรมว.มหาดไทยมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ได้พูดคุยลงลึกในรายละเอียดกับผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลของมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้ตนกำลังรอให้กระทรวงการต่างประเทศสรุปและเสนอต่อสมช. ซึ่งตนไม่ขอลงรายละเอียดให้ทราบแต่อย่างใด

 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการทำงานอีกหลายด้านประกอบกันเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีคณะทำงานกำลังดำเนินการ ที่มีเลขาฯ สมช.เป็น 1 ในคณะทำงาน ตนทำงานเป็นทีม และได้หารือกับกองทัพใกล้ชิด ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกวิจารณ์ว่าทำอะไรไม่หารือกองทัพ แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าให้ใครไปพบพูดคุยและคุยกับใคร เพียงแต่ทำให้บ้านเมืองสงบ ตอนนี้ต้องเป็นเรื่องลับก่อน จะเปิดเผยก็ต่อเมื่องานเสร็จแล้ว แต่ตนมั่นใจว่าเดินทางมาถูกจุดแล้ว หวังความสำเร็จคือ ความสงบสุขเกิด

 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรอคำยืนยันอยู่ว่า ในเร็วๆนี้ จะเดินทางไปพบกับมหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนทั้งเวลาและสถานที่ซึ่งอาจจะเป็นที่ลังกาวี หรือ จ.สตูล เนื่องจากตอนนี้รัฐบาลมาเลเซียมอบหมายให้มหาธีร์ พัฒนาเศรษฐกิจชายแดนมาเลเซีย-ไทย “การแก้ปัญหาต้องทำจากนอกประเทศ หากผมทำสำเร็จผลที่ได้จะได้ในประเทศ แต่จะสำเร็จหรือไม่ต้องได้พบพูดคุยกับมหาธีร์ก่อน หลังจากที่ได้พบพูดคุยกับทางมาเลเซียแล้ว จะเดินทางไปหารือกับอินโดนีเซียต่อไป เป็นขั้นๆ ส่วนรายละเอียดหารือก็ยังขอไม่บอก เพราะพูดแค่นี้ก็เป็นปริศนาธรรมแล้ว

 เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพขณะพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่โรงแรมที่พักในประเทศมาเลเซียและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าขณะนั้นกำลังเมาว่า เป็นภาพที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนร่วมรับประทานอาหารค่ำกับเพื่อนสนิทมาก 5 คน สนิทมากถึงกับเรียกกันว่า 5 ทหารเสือและช่วยชีวิตตนตั้งแต่ตอนลี้ภัยไปเดนมาร์ค โอกาสนี้ได้พบกันหลังจากที่ไม่พบกันมากว่า 2 ปี เพื่อนไปรับตนหลังจากลงเครื่องที่สนามบินเพื่อไปรับประทานอาหารและดื่มไวน์กันหมดไป 8-9 ขวด โดยไม่มีข้าราชการร่วมด้วยแต่อย่างใด แต่เมื่อกินค่ำเสร็จกลับเข้าโรงแรมที่พักก็ได้พบกับท่านทูตและข้าราชการทหารบางส่วนซึ่งมีเจตนาจะต้อนรับตนซึ่งตนก็ทักทายธรรมดา

 ภาพที่ออกมาตรวจสอบก็ทราบว่าเป็นการถ่ายโดยนักข่าวของสถานีโทรทัศน์หนึ่งของไทยที่เดินทางไปทำข่าว“ยืนยันว่าไม่ได้เมามาย ไม่ได้ไปเมากับข้าราชการฝ่ายมาเลหรือเจ้าหน้าที่ไทย เพราะทูตมาชวนไปทานข้าวแต่ผมก็ปฏิเสธ ไม่ได้เกี่ยวกัน ตอนนั้นกำลังจะขึ้นนอนเพราะเช้ารุ่งขึ้นผมก็ต้องปฏิบัติภารกิจ ไม่ได้เมา ตอนไปกินก็กินกับเพื่อนส่วนตัว ไม่ได้มีใครมาเลี้ยง ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกวิจารณ์ว่าไปเมาขณะเจรจาความ พวกที่เอามาวิจารณ์คงเป็นพวกคับแคบ ไม่มีเพื่อน ไม่มีพวก แยกเวลาไม่เป็น”


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์