ญาติเหยื่อสาวอินเดีย ร้องแขวนคอแก๊งข่มขืน ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด

ญาติเหยื่อสาวอินเดีย ร้องแขวนคอแก๊งข่มขืน ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด


เธออายุเพียง 23 ปี เป็นชาวอินเดีย ความผิดของเธอคือไปขึ้นรถบัสผิดคัน ทำให้เธอถูกชาย 6 คนรุมข่มขืนอย่างเหี้ยมโหด เธอได้ถูกส่งตัวมารักษาอาการบาดเจ็บที่สิงคโปร์ แต่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เนื่องจากคนไข้มีอาการสมองได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและอวัยวะภายในบอบช้ำอย่างหนักจากการถูกแก๊งคนร้ายถึง 6 คน รุมข่มขืน ทำร้ายร่างกายและถูกจับโยนออกจากรถโดยสารที่กำลังแล่นอยู่เมื่อคืนวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา 

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะไทม์ของอังกฤษ รายงานว่า ครอบครัวของนักศึกษาแพทย์สาวชาวอินเดีย ที่เป็นเหยื่อของแก๊งรุมโทรมบนรถเมล์ ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับเหยื่อ ด้วยการขอให้มีคำสั่งแขวนคอผู้ที่กระทำผิดเหล่านั้น

ทั้งนี้ พี่ชายของเหยื่อได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อินเดียฉบับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นแถลงการณ์จากครอบครัวฉบับแรก นับตั้งแต่มีการเผาศพเหยื่อสาวว่า แม้ตอนนี้นักศึกษาคนนั้นจะจากไปอย่างสงบ แต่ทางครอบครัวก็จะเอาเรื่องผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด และจะต่อสู้จนกว่าพวกที่ข่มขืนเหยื่อบนรถบัสจะได้รับการลงโทษอย่างสาสม

"การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น เราอยากให้มีการแขวนคอผู้ต้องหา และเราจะสู้จนถึงที่สุด" พี่ชายของเหยื่อกล่าว

ด้านคุณลุงของเหยื่อคนดังกล่าว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ และตั้งคำถามว่า เหตุใดเหล่าผู้นำในประเทศอินเดีย ถึงปล่อยให้เรื่องสิทธิมนุษยชนของผู้หญิงในประเทศ ล้าหลังกว่าประเทศอื่นทั่วโลกได้มากถึงเพียงนี้ กฎหมายในเรื่องของการคุ้มครองความปลอดภัยต่อผู้หญิงในประเทศอื่น ต่างเข้มงวดมากกว่าอินเดีย เขาได้แต่หวังว่า ประเทศอินเดียจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ และมีการบัญญัติกฎหมาย ที่ทำให้ผู้กระทำผิด เกรงกลัวบทลงโทษที่จะได้รับ

นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงหลานสาวของเขาว่า เธอเป็นคนเงียบ ๆ ฉลาดและต้องการที่จะเรียนต่อทางด้านแพทยศาสตร์ เพื่อที่จะออกมาทำงานรับใช้สังคม และเธอเองเรียนหนักเพื่อที่จะทำความฝันให้เป็นจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอจบจากโรงเรียนรัฐบาลในกรุงนิวเดลี พร้อมกับรับสอนพิเศษเด็ก ๆ และยังทำงานพาร์ทไทม์ เพื่อหาเงินมาเรียนต่อที่โรงเรียนแพทย์ในเมืองเดห์ราดุน รัฐอุตรสถานอีกด้วย

ด้านพ่อของเธอเองเป็นเพียงพนักงานทำความสะอาด ซึ่งต้องเอาที่ดินของบรรพบุรุษในเมืองบอลเลียไปจำนอง เพื่อหาเงินให้เธอได้เรียนต่อ พร้อมกับที่พ่อต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว เธอเองก็ทำงานอย่างหนัก เพื่อหวังจะยกระดับชีวิตของคนในครอบครัวให้ดีขึ้น การตายของเธอนับเป็นเรื่องเหลือเชื่อว่า จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว ทุก ๆ คนต่างรู้สึกเศร้า ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์